[E3 2018] Console Wars & Dev Battles ปีนี้ใครแพ้ใครชนะ ลองมาเทียบผลงานกัน!!

สิ้นสุดไปอย่างเป็นทางการกับงานแถลงข่าวและเปิดตัวเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก กับ Electronic Entertainment Expo หรือ E3 2018 ปีนี้ค่ายเกมดังและเหล่าผู้พัฒนาเกมก็ต่างขยันกันดันเกมของตัวเองทั้ง Cross-platform และ Exclusive ออกมาเปิดเผยแก่สายตาเกมเมอร์ทั่วโลกให้ดีใจกระโดดโลดเต้นกันอุ่นหนาฝาคั่ง แต่ทว่าในบรรดาเกมมากมายในงานก็มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ถือว่าเป็นไฮไลต์เด็ดของงานจริงๆ และก็เป็นนางแมวกวักเรียกแขกให้เข้ามาชมงานของค่ายต่างๆ เป็นสมรภูมิแห่งการ Presentation อย่างแท้จริง ทางผมที่ดู Live ครบทุกกระบวนค่ายแล้วจะมาสรุปเกมเด็ดๆของแต่ละค่ายให้ฟังครับ

CONSOLE WARS

เริ่มด้วยเกมที่เป็นเสาหลักของสามค่ายเครื่องคอนโซลอย่าง Sony, Microsoft และ Nintendo ที่ต่างขนเกม Exclusive มาเพื่อดึงความสนใจกันอย่างเต็มที่ E3 2018 ครั้งนี้ใครจะได้ถ้วยแชมป์เปี้ยนไปก็วัดกันที่ตรงนี้ละ!

MICROSOFT

ปีนี้ทางไมโครซอร์ฟใช้กลยุทธ์ “ปริมาณเข้าว่า” ด้วยการถล่มผู้ชมด้วย Trailer ต่อ Trailer ต่อ Trailer ยาวนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยแอบแทรกเกม Exclusive เฉพาะ XBOX เข้าไปคั่นกลางเหมือนนึกว่าคนจะไม่รู้(ฮา) เกมที่น่าสนใจก็อาทิเช่น :
Halo Infinite
Crackdown 3 (Feb 2019)
Forza Horizon 4 (Oct 2)
Gear 5 (2019)
Battletoad (2019)
Cyberpunk 2077

หลักๆเลยก็คือเกมอย่าง Crackdown 3 ที่ไมโครซอร์ฟพยายามดันให้เป็นตัวชูโรงในงาน แต่ก็ดันติดโรคเลื่อนยาวนานจนล่าสุดก็ได้ฤกษ์ประกาศวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการคือช่วงต้นปีหน้า, เกมขับรถอย่าง Forza ก็ช่วยดึงความสนใจเกมเมอร์ขาซิ่งได้เป็นอย่างดี ตบท้ายด้วยห่านทองคำของเครื่อง XBOX กับซีรี่ย์ Gear of Wars เปิดตัวในงานด้วยชื่อ Gear 5 พร้อมกับ Spin-off สไตล์น่ารักอย่าง Gear Pop และแนวแทคทิค Turn-based อย่าง Gear Tactic ปิดท้ายด้วยเกมเก่าจากยุค ’90 กลับมาทำใหม่ Battletoad ที่เอาจริงๆผมไม่เคยเล่น(เกิดไม่ทัน) แต่คาดว่าน่าจะยังคงความเป็นเกมอาเขตไว้เช่นเดียวกันเกมต้นฉบับ ก่อนจะปิดงานด้วยเกม Cyberpunk 2077 ผมคิดว่านี่เป็นการจัดฉากเพื่อโชว์เกมที่เจ๋งทึ่สุดเท่าที่ Microsoft เคยทำมาเลยครับ

Master Chief กลับมา(อีกแล้ว)!

ภาพรวม Microsoft พยายามพรีเซ้นต์เกมให้มีความหลากหลาย เจาะตลาดเกมเมอร์หลายประเภทด้วย Exclusive ที่ตัวเองมีอยู่และ Trailer เกม Cross-platform ในลักษณะ World-Premier หรือดูก่อนใครเป็นที่แรก เพราะข้อได้เปรียบที่ว่าเป็นค่ายคอนโซลอันดับแรกที่ขึ้นงาน E3 ครับ

Sony

เกมเรียกแขกประจำปีนี้ของ Sony(คู่กับหนูเอลลี่)

หลังจากโดนไมโครซอร์ฟใช้ไพ่ “ของเยอะ” เข้าใส่ทางโซนี่จึงเหมือนแก้เกมด้วยการเน้นพูดถึงเฉพาะแค่เกม Exclusive บนเครื่อง PS4 และใช้เวลากับการเจาะลึกแต่ละเกมมากกว่าแค่โชว์ตัว Trailer หรือ Teaser แบบไมโครซอร์ฟ โดยเกมหลักก็มีอาทิ :
The Last of Us 2
Ghost of Tsushima
Death Stranding
Resident Evil 2
Spiderman
Deracine

น่าสนใจมากที่โซนี่โต้กลับด้วยกลยุทธ์ “เน้นคุณภาพ” แต่ละเกมหลักที่เป็นไฮไลต์ของงานใช้เวลาอย่างต่ำ 10 นาทีต่อเกมในการโชว์ทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ตั้งแต่ Cinematic, Trailer, Gameplay เพื่อให้ผู้ชมได้รับข้อมูลว่าเกมแต่ละเกมมีลักษณะเป็นอย่างไรและทั้งหมดนี้ก็คือเกม Exclusive เฉพาะ PS4 เท่านั้น จะมีแทรกกลางก็เพียงเกม IP ใหม่อย่าง CONTROL, เกมภาคต่ออย่าง Nioh2 และกรณีเกม Kingdom Heart 3 ที่โชว์ตัว Trailer ใหม่ที่ไมโครซอร์ฟไม่ได้เผยออกมาครับ

ฉากซามูไรดวลดาบก็สวยงาม

หากไม่นับเรื่อง Format งานแปลกๆที่ให้ผู้ชมเปลี่ยนเวทีกลางงานกับการโชว์ตัว Trailer เกม Deracine ของ From Software ช่วงหลังจากพรีเซ้นต์งานเลิกแล้วนั้น ถือว่าโซนี่ทำตามความต้องการของเกมเมอร์และโชว์เกมที่หลายๆคนรอคอย(บวกเซอร์ไพร์อย่าง RE2) อย่างไม่กั้ก แก้เกมได้ดีทีเดียว

Nintendo

เฮฮากับเพื่อนๆ สไตล์มาริโอ้

คนที่ติดตามค่ายปู่นินจะรู้ว่าลักษณะการพรีเซ้นต์งานของปู่นั้นค่อนข้าง Old-school คือจะเป็นการพูดผ่านวิดีโอมากกว่าการเชิญ CEO หรือผู้พัฒนามาพูดคุยบนเวที และครั้งนี้ก็เช่นกันกับ Nintendo Direct E3 2018 ที่ถือว่าเป็นสุดท้ายและท้ายสุดก่อนปิดงาน E3 โดยเกมหลักที่ปู่นินได้นำมาก็มีอาทิ :
Daemon x Machina
Xenoblace Chronicle 2 : TORNA The Golden Country
Super Mario Party
Fire Emblem : Three Houses
Super Smash Bros. Ultimate (Dec 2018)

มีเกมไฮไลต์ค่อนข้างน้อยสำหรับนินเท็นโดรอบนี้โดยเปิดงานด้วยเกมหุ่นยนต์อย่าง Daemon x Machina ตามมาด้วยภาคเสริมของเกม Xenoblade 2, เกมมาริโอ้ปาร์ตี้สาธิตการใช้เครื่อง Switch ในแบบครีเอทีพก่อนจะตามมาด้วยเกมที่ผมรอคอยมาเป็นการส่วนตัว และลงทุนนอนดึกเพื่อเกมนี้โดยเฉพาะอย่าง Fire Emblem : Three House(ไม่ค่อยจะอวยเลย ฮิฮิ) เท่าที่ดูเกมเพลย์มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก(ในทางที่ดี) และอาจเป็นแรงผลักสุดท้ายสำหรับผมในการตัดสินใจซื้อเครื่อง Switch ครับ

น่าจะเกิน 30 นาทีกับเกมนี้เกมเดียว…..

หลักจากนั้นก็เป็นช่วงคาบเกี่ยวสั้นๆที่พูดถึงเกมพอร์ตลงเครื่อง Switch เหมือนว่าจะกลายเป็นแนวทางใหม่ของปู่นินไปแล้ว ทว่ายังเหลืออีกตั้งเกือบชั่วโมงกับ Direct นี้ทุกคนก็ต่างลุ้นกับเกมโปรดของตัวเองอย่าง Metroid หรือ Animal Crossing ให้ปรากฎตัวแต่ก็ต้องผิดหวังด้วยว่าช่วงเวลาที่เหลือคือการพูดถึงเกม Super Smash Bros. Ultimate อย่างเดียวเลย! เรียกว่า E3 นี้เพื่อ Smash Bros. คิดอะไรอยู่เนี่ยนินเท็นโด!!!! มองโดยภาพรวมถือว่างาน E3 2018 นินเท็นโดใช้เวลาเสียเปล่ามากที่สุดกับการอวยเกมเพียงเกมเดียว(Super Smash Bros.) และ Sideline เกมอื่นๆที่มีคนรอคอยกันจึงไม่แปลกถ้าไล่ถามคนที่ดู Direct เมื่อคืนผลตอบรับส่วนใหญ่จะอยู่ที่ “น่าเบื่อ” ครับ

“โดยสรุป CONSOLE WARS ปีนี้ผมให้ Sony กับ Microsoft ถือถ้วยคู่กัน โดยมีนินเท็นโดกระเด็นไปอยู่รั้งท้ายครับ”

DEVELOPER BATTLE

จบสงครามคอนโซลแต่การต่อสู้ของเหล่าผู้พัฒนาเกมยังไม่จบเพราะในซุ้มงานของแต่ละค่ายก็ต้องพยายามที่จะดึงความสนใจของผู้ชมให้มากที่สุดเช่นกัน สำหรับสงครามย่อยครั้งนี้เรามีผู้ท้าชิงก็คือ :

EA

เกมซะดี เอามาทำโมบายเนี่ยนะ…

….พรีเซ้นต์ห่วยแตกที่สุดตั้งแต่เปิดงาน E3 2018 มา ด้วยเกมหลักๆก็มีเพียง Battlefield V และ Anthem ซึ่งกระแสตอบรับค่อนข้างขึ้นๆลงๆหวาดระแวงกันหน่อยๆ เนื่องจากเหตุการณ์ Lootbox และ Microtransaction ในอดีต ยิ่งซ้ำให้แย่ขึ้นเมื่อ EA ประกาศว่าจะทำ Command&Conquer ภาคใหม่(ทำผมหลงดีใจแป๊ปหนึ่ง) …ในเวอร์ชั่นโมบาย… และก็เกม EA Sport ห่านทองคำของค่ายนี้ที่ออกมาได้ทุกๆครึ่งปี

ผมขอข้ามไปละกัน ไปดูค่ายอื่นๆที่น่าสนใจกว่านี้ดีกว่าอย่าง

BETHESDA

หนึ่งคนตาย Alone สี่คนเพื่อนร่วมตาย

พรีเซ้นต์งานได้ดีต่างกับ EA หน้ามือกับหลังเท้า ด้วยเกมใหม่ๆที่เปิดใน Conference, มุขฮาเรียกเสียงหัวเราะจากเหล่าผู้ชม และโดยภาพรวมคืองานเกมสนุกๆที่ทำให้ E3 เป็น E3 ครับ โดยเกมหลักๆที่ปรากฎในซุ้มของ BETHESDA มีดังนี้ :
Rage 2 (Spring 2019)
Doom Eternal
Fallout 76 (Nov 14)
Starfield
The Elder Scrolls VI

ภาพเดียวที่ทำให้คนทั้งฮอลล์สติแตกได้

เกม Rage2, Doom และ Fallout 76 เปิดตัวได้อย่างอบอุ่น ผู้ชมให้ความสนใจและมีการส่งเสียงเชียร์อยู่เป็นระยะๆ โดยเฉพาะส่วนของ Fallout 76 ที่เป็นหน้าเค้กของงานนี้นำโดย Todd Howard เจ้าเดิมขึ้นมาพูดคุยเกี่ยวกับเกมเพลินๆตามประสาเดี่ยวไมโครโฟนที่เฮียเขาถนัด ก่อนจะจบงานด้วยการประกาศเกม IP ใหม่ของ Bethesda หลังทิ้งช่วงไป 25 ปีอย่าง Starfield และ Teaser ตัวล่าสุดของเกมที่หลายคนรอคอย The Elder Scrolls VI

Square Enix

Babylon’s Fall โดยค่ายแพลตตินั่ม

ค่ายเหลี่ยมปีนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจในซุ้มของตัวเองมากนักเพราะส่วนใหญ่ก็คือเกมที่เรารู้จักดีๆกันอยู่แล้วหรือไม่ก็ไปโผล่ในงานแถลงข่าวของค่ายคอนโซลหลักๆอย่าง Sony ไม่ก็ Microsoft กันหมดแล้วเช่น Shadow of The Tomb Raider หรือ Dragon Quest XI ทั้งนี้ก็ยังเหลือเกมที่น่าสนใจในงานให้ได้ดูกันอย่างเช่น :
Babylon’s Fall (2019)
Octopath Traveler (July 13)

เหล่าตัวละครในเกม Octopath Traveler

ส่วนตัวผมค่อนข้างสนใจเกมอย่าง Babylon’s Fall เป็นอย่างมากด้วย Trailer ในเกมแม้จะไม่ได้บอกอะไรมากแต่นำเสนอได้น่าสนใจ และภาพประกอบในเกมที่มีความเป็นแฟนตาซียุคกลางแถมได้ค่ายเกมอย่าง Platinum มาทำแล้วด้วยยิ่งดูน่าติดตามเข้าไปใหญ่ อีกหนึ่งเกมที่เหลือของงาน Square Enix ก็คงหนีไม่พ้น Octopath Traveler ที่มีการบอกเล่าเพิ่มเติมเหตุการณ์ในเกมต่อจาก Trailer เก่าๆ สำหรับคนที่เป็นแฟนเกม Final Fantasy ยุคเก่าๆอยู่แล้วเกมนี้ก็น่าจับตามองเช่นกันครับ

Ubisoft

สาวกวน ลิงเกรียน ตะลุยโลกอนาคตสุดป่วน

ค่ายผู้พัฒนาสุดท้ายที่น่าสนใจในงาน E3 2018 รอบนี้แพ๊คเกมมาอวดกันค่อนข้างแน่นทีเดียว…ส่วนใหญ่จะเป็นภาคเสริมไม่ก็ DLC ซะส่วนใหญ่อย่าง For Honor, Mario+Rabbits Kingdom : Donkey Kong แต่ก็ยังคงมีเกมใหม่ให้เราได้น้ำลายสอกันอยู่อาทิเช่น :
Just Dance 2019
Beyond Good and Evil 2
Tom Clancy’s The Division 2 (March 2019)
The Crew 2 (Jun 21)
Assassin’s Creed Odyssey (Oct 5)

THIS IS SPARTA!!!!

เกมอย่าง The Crew และ Just Dance นั้นค่อนข้างเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม ตามด้วยเกมอย่าง Beyond Good and Evil 2, The Division 2 และ Assassin’s Creed Odyssey ผมรู้สึกว่าค่อนข้างน่าสนใจและพรีเซ้นต์ตัวเกมได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะ Beyond Good and Evil ที่มีการหลุดไมค์หลังพรีเซ้นต์เกมจบว่า “We nailed it!, We nailed it!” น่ารักน่าชังมากๆเลย

“Developer Battle รอบนี้ผมขอยก Bethesda เป็นที่ 1 ตามมาด้วย Ubisoft และ Square Enix รั้งท้ายลำดับที่ 3 ครับ”

งาน E3 ครั้งนี้ใจหนึ่งจะว่าน่าเสียดายที่ผมไม่ได้ไปเองเป็นการส่วนตัว แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องลงทุนเสียเงินทองแพงๆไป เพราะสุดท้ายก็รู้สึกว่างานไม่ได้อู้หูเสียดายไม่ได้ไปขนาดนั้น จุดดีก็มีให้สะดุ้งเยอะ แต่จุดแปลกๆขัดใจก็มีอยู่ในพบตลอดงานเช่นกัน แล้วเพื่อนๆเกมเมอร์ล่ะครับเห็นด้วยกับการจัดลำดับครั้งนี้ไหม? หรือยังมีเกมจากค่ายไหนที่ผมพลาดพลั้งไปหรือเปล่า? ดีเบทกันได้ในคอมเม้นต์เลยครับ!!

Facebook Comments