ในยุคที่อินเตอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญในการใช้ชีวิต ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ล้วนต้องใช้อินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน และ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ร้านเน็ต ผมมองว่านี่ถือเป็นธุรกิจเพียงหนึ่งเดียวที่ช่วยตอบสนองผู้ที่ไม่มีทุนทรัพย์ในการเป็นเจ้าของอุปกรณ์ต่างๆและอินเตอร์เน็ตดีๆเป็นของตัวเองด้วย

หากให้พูดถึง “ร้านเน็ต” ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียกได้ว่า ตั้งแต่อดีตจนตอนนี้…ชีวิตส่วนหนึ่งยังไงก็ต้องอยู่ในร้านเน็ต ซึ่งพูดได้เลยว่ามีหลายท่านที่อาจเลิกเข้าร้านเน็ตไปนานมากแล้ว เผลอๆบางคนไม่เคยเข้าเลยก็มี โดยปกติจะเข้าร้านเน็ตทุกวัน เล่นรวมกันวันละ 1-2 ชั่วโมงหรือมากกว่า และมักจะแบ่งเป็นเล่นกลางวันรอบหนึ่งกับกลางคืนรอบหนึ่ง ชีวิตผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เรียนมัธยม จนถึงปัจจุบันนี้ผมก็ยังเข้าร้านเน็ตอยู่เป็นประจำเหมือนเดิม

“ร้านเน็ต” สังคมหนึ่งที่เชื่อว่าหลายๆคนอาจห่างหายไปนานแสนนานแล้ว…

เนื่องจาก ร้านเน็ตเป็นสถานที่ที่ให้บริการคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต โดยถือเป็นสถานที่สาธารณะเช่นเดียวกับสถานที่ให้บริการอื่นๆ ดังนั้นผมจะมาพูดถึงการเข้าร้านเน็ตว่าคุณจะเจอกับอะไร และคุณต้องทำยังไงบ้างเมื่อคิดจะเข้าร้านเน็ต

ทัศนคติที่มีต่อร้านเน็ต

สิ่งที่ต้องขอกล่าวถึงก่อนเป็นอย่างแรกเลย คือ ทัศนคติที่มีต่อร้านเน็ต หากถามว่าทำไมต้องพูดประเด็นนี้ขึ้นมา เหตุผลคือผมเชื่อว่า ยังมีคนที่มองร้านเน็ตในเชิงลบอยู่ไม่มากก็น้อย สังเกตง่ายๆว่าร้านเน็ตเองก็เป็นสถานที่ที่มักจะมีข่าวไม่ดีอยู่เป็นระยะๆ บวกกับค่านิยมแต่เดิมของสังคมไทยก็มองร้านเน็ตเป็นสถานที่อันไม่พึงประสงค์สักเท่าไหร่อยู่แล้ว ทำให้หลายคนอาจยังไม่กล้าเข้าร้านเน็ตทั้งที่อยากใช้เน็ตแบบสบายๆ ฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะ ปรับทัศนคติที่มี่ต่อร้านเน็ต กันได้อย่างไรบ้าง

1. “ร้านเน็ต” เป็นสถานที่ของเด็กและเยาวชน

ตามประสบการณ์แล้วก็ต้องยอมรับว่าความคิดนี้เป็น เรื่องจริง เพราะไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต หรือเกม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่คู่กับคนอายุน้อยๆเสมอ แต่ผมก็ ไม่เชื่อว่าผู้ใหญ่วัยทำงานหรือแม้แต่ผู้สูงอายุจะใช้บริการร้านเน็ตไม่ได้ เหตุผลคือปัจจุบันกลุ่มคนที่สนใจในเทคโนโลยีไม่ได้มีเพียงแค่เด็ก วัยรุ่น หรือวัยทำงานเท่านั้น แม้แต่ผู้สูงอายุหรือคนวัยเกษียณเองก็สนใจในสิ่งที่ลูกหลานตัวเองสนใจเหมือนกัน

เรื่องจริงที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย…

ยกตัวอย่างง่ายๆเลย คือ ทุกวันนี้ลูกหลานสอนพ่อแม่ใช้สมาร์ทโฟน ใช้แท็บเล็ต สอนเซลฟี่ หรือสอนเล่นโซเชียลมีเดีย เป็นต้น ซึ่งแท้จริงแล้ว นี่ไม่ใช่วิถีทางในยุคของพวกเขา แต่เขาก็พยายามปรับตัวเข้าหาวิถีชีวิตของลูกหลาน เผลอๆของพวกนี้ตอบโจทย์ทั้งชีวิตมากกว่าชีวิตในอดีตของพวกเขาซะอีก

คนสูงอายุก็เข้าร้านเน็ตได้นะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!!

ร้านเน็ตเองก็เช่นเดียวกันครับ ผมเองยังเคยเห็นผู้สูงอายุเข้าร้านเน็ตกันนะ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจหรือฝืนใจอะไร ก็เล่นคอมพิวเตอร์แบบที่เด็กอย่างเราๆเล่นกันนั่นแหละ มองอีกด้านยิ่งพวกเขาทำแบบนี้นี่แหละเรายิ่งชอบ ทำให้เราเข้าถึงพวกเขาได้ง่ายขึ้นกว่าปกติด้วยซ้ำ และที่สำคัญที่สุด คือ ร้านเน็ตไม่มีกฎกติกาให้ห้ามผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุใช้บริการ ที่ถูกห้ามจริงๆจะเป็นพวกเด็กที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ซะมากกว่า

ดังนั้นผมอยากให้มองว่าร้านเน็ตก็เป็นร้านค้าอย่างหนึ่ง ในเมื่ออยากไปก็อย่าไปใส่ใจอะไรมาก เพราะคุณก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย ก็แค่ไปเล่นเน็ตเท่านั้นเอง

2. ร้านเน็ตเป็นแหล่งมั่วสุม

ประเด็นนี้นับว่าสาหัสกว่าข้อแรกพอสมควร ด้วยประสบการณ์แล้วก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นจริงซะด้วย เพราะร้านเน็ตส่วนใหญ่เป็นแหล่งรวมเด็กผู้ชาย หลักๆแน่นอนว่าต้องมี คนติดเกมโดยส่วนใหญ่อยู่แล้วหนึ่งอย่าง แต่กิจกรรมอบายมุขต่างๆ เช่น กินเหล้า สูบบุหรี่ ทะเลาะวิวาท รวมไปถึงยาเสพติด ก็มีโอกาสเกิดขึ้นสูงหากเป็นกลุ่มลูกค้าที่สนิทสนมกัน โดยเฉพาะกับเจ้าของร้านที่อาจปล่อยปละละเลยจนเกิดพฤติกรรมดังกล่าวในร้านของตัวเอง ฉะนั้นความน่าเชื่อถือของร้านเน็ตเองส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับการสร้างภาพลักษณ์ของร้านว่าจะออกมาอย่างไร และมีมาตรการควบคุมลูกค้าอย่างไรให้น่าเชื่อถือจากคนภายนอกด้วย

ปฎิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าร้านเน็ตเป็นจุดหนึ่งที่ถูกเพ่งเล็งว่า “อันตรายกับเยาวชน”…
เชื่อว่าหลายคนอาจมีประสบการณ์แบบนี้…

ถึงแม้ว่าผมจะพูดว่าร้านเน็ตทั่วไปมีแนวโน้มจะมีภาพลักษณ์ไม่ดีสำหรับคนทั่วไป แต่สมัยนี้ก็เริ่มมี ร้านเน็ตระดับ Hi-End ให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ซึ่งร้านเน็ตคุณภาพสูงเหล่านี้มักจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ เช่น Gspeed Living Plus (GLP) ร้านเน็ตที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Gspeed กับ NVIDIA , Xenith Cybercafé จ.เชียงใหม่ ร้านเน็ตต้นแบบตามโครงการ NVIDIA Lighthouse i-CAFÉ และ Mine Cafe โดย J.I.B. เป็นต้น

“ปลอดภัย” และ “หรูหรา” ก็ต้องร้านเน็ตระดับ Hi-End ไปเลย

ร้าน Hi-End เหล่านี้มีภาพลักษณ์ร้านเกมที่น่าเชื่อถือสูงมากๆ นอกจากอุปกรณ์จะเป็นเกมมิ่งเกียร์และใช้อินเตอร์เน็ตระดับสูงแล้ว ยังมีรูปแบบของร้านที่เป็นมากกว่าร้านเน็ต เช่น มีร้านกาแฟ มีมุมจิบกาแฟเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ บรรยากาศร้านดูหรูหรา แต่ก็ดูไฮเทคและสะดวกสบายอย่างไม่น่าเชื่อ รวมไปถึงการบริหารร้านและการให้บริการที่มีมาตรฐานสูงกว่าร้านเน็ตตามปกติอย่างชัดเจนอีกด้วย เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนร้านคาเฟ่ามากกว่าร้านเน็ตไปแล้วก็ว่าได้

ร้านระดับ Hi-End มักจะมีอะไรมากกว่าร้านเน็ตปกติ เช่น มุมคาเฟ่แบบร้านกาแฟ
ในเมื่อเป็นร้านเน็ต Hi-End มาตรการก็ต้องเข้มงวดกวดขันไปด้วย

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะพึงพอใจร้านเน็ตแบบไหน แต่สุดท้ายแล้วหากคุณคิดจะเข้าร้านเน็ต จงเปิดใจให้กว้างเข้าไว้ กรุณาอย่าเพิ่งด่วนตัดสินทุกอย่างด้วยภาพลักษณ์ภายนอก เพราะร้านเน็ตอาจเป็นสถานที่ที่ดีกว่าที่คุณคิดก็ได้

3. ความคุ้มค่าในการใช้บริการร้านเน็ต

เรื่องนี้เป็นอีกประเด็นที่คิดกันไม่ตกเลยทีเดียว เพราะโดยทั่วไปการคิดค่าบริการของร้านเน็ตโดยทั่วไปจะนับว่า ชั่วโมงหนึ่งต้องเสียเงินเท่าไหร่ แน่นอนว่าย่อมมีการเปรียบเทียบว่าระหว่าง เสียเงินรายชั่วโมง กับ การลงทุนระยะยาว ซึ่งจะต้องทุ่มทุนซื้อคอมพิวเตอร์และต่ออินเตอร์เน็ตเองว่าแบบไหนจะคุ้มกว่ากัน

ร้านเน็ตมีข้อดีที่ชัดเจนที่สุด คือ เราแทบไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรหนักๆเลย แค่เดินเข้าไปในร้านแล้วจ่ายเงินตามจำนวนและเวลาที่อยากใช้งานอินเตอร์เน็ตเท่านั้นเอง เรื่องอุปกรณ์ก็สะดวกสบายเพราะ คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มักจะเป็นสเปคสูงๆ รองรับได้ทั้งเกมและอินเตอร์เน็ตไม่ต่างกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัว มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานก็ไม่ต้องมาแก้ไขเอง สามารถสอบถามและให้ทางร้านเป็นผู้จัดการได้เลย ส่วนข้อเสียหลักๆ คือ มีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า เพราะอาจมีลูกค้าคนอื่นคอยรบกวนได้ตลอดเวลา และไม่สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ตามใจตัวเอง จำเป็นต้องพาตัวเองไปให้ถึงร้านเน็ตก่อนสถานเดียว ซึ่งหลายๆครั้งก็ไม่มีเวลาแวะเข้าร้านเน็ตสักเท่าไหร่ ถึงยังไงเล่นที่บ้านหรือที่พักของตัวเองก็สะดวกมากที่สุดอยู่แล้ว

เล่นที่ร้านเน็ตสบายๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก…
หรือจะทุ่มทุนสร้าง มีคอมเป็นสมบัติส่วนตัวไปเลยดีกว่า!?

จะเห็นได้ว่าข้อเสียของร้านเน็ตกลายเป็น ข้อดีของการมีคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ไปโดยปริยาย นั่นคือเราจะเล่นคอมพิวเตอร์เมื่อไหรก็ได้ อยากเล่นอะไรหรือลงโปรแกรมอะไรก็ทำได้อย่างอิสระ แถมเมื่อมองในระยะยาวแล้วการลงทุนแบบนี้คุ้มค่ามากกว่า อย่างไรก็ตามร้านเน็ตก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีทุนทรัพย์ หรือต้องการเปลี่ยนบรรยากาศในการเล่น และยังเหมาะกับการเล่นเพื่อฆ่าเวลาเมื่ออยู่ข้างนอกอีกด้วย

ความเท่าเทียมระหว่างการเล่นเกมและการเล่นเน็ต

ราวๆ 10 กว่าปีที่แล้ว ร้านที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตค่อนข้างกำหนดเจาะจงระหว่าง กลุ่มลูกค้าที่เล่นเกม กับ กลุ่มลูกค้าที่เล่นเน็ต ออกมาชัดเจน ถึงขั้นเรียกร้านที่เน้นให้เล่นเกมว่า ร้านเกม และร้านที่เน้นให้เล่นได้แค่อินเตอร์เน็ตว่าร้านเน็ตแยกกันชัดๆไปเลยทีเดียว ด้วยข้อเท็จจริงตรงนี้ กลับส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมาก เช่น บางคนจำเป็นต้องเข้าร้านเกม ทั้งที่อยากเล่นเน็ตท่องเว็บอย่างเดียว พอเปิดเน็ตก็เลยถูกมองว่าประหลาด เป็นต้น ซึ่งพอมองย้อนกลับไปคิดแล้วก็รู้สึกตลกไม่น้อยว่าทำไมต้องแบ่งแยกเป็น ร้านเกม กับ ร้านเน็ต ด้วยก็ไม่รู้ ใครจะทำอะไรก็แล้วแต่เขาสิ คอมพิวเตอร์มันทำได้ทั้งสองอย่างไม่ใช่เหรอ!?

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงไม่เชื่อว่าร้านนี้เป็น “ร้านเน็ต” ตามที่เขาบอกแน่ๆ…

ส่วนปัจจุบันคำว่า ร้านเกม กับ ร้านเน็ต นั้นแทบจะเรียกแทนกันได้แล้ว เพราะอินเตอร์เน็ตคาเฟ่สมัยนี้ ไม่ได้แบ่งแยกกลุ่มลูกค้า ทั้งสองกลุ่มสักเท่าไหร่ เวลาเรียกก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปทำอะไรมากกว่า ถ้าเราอยากเล่นเกมเราจะพูดว่า “ไปร้านเกม” หรือถ้าจะเล่นเน็ตก็จะพูดว่า “ไปร้านเน็ต” โดยอัตโนมัติ แต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหาจริงๆ คือหากมองแบบผิวเผินแล้ว อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ยังให้ความรู้สึกว่า นี่เป็นร้านเกมมากกว่าร้านเน็ตหรือเปล่า? คือถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะแยกได้ชัดว่าร้านไหนเป็นร้านที่จะไปเล่นเกมหรือเล่นเน็ต มันก็เลยเลือกง่ายหน่อย ถึงสมัยนี้แม้รูปแบบจะไม่ได้แยกจากกันแล้ว แต่ภาพลักษณ์กลับยังเอนเอียงไปทางร้านเกมมากกว่า เพราะกลุ่มลูกค้าที่เน้นเล่นเกมมีมากกว่ากลุ่มที่เล่นเน็ตนั่นเอง

สำหรับผมที่ ผ่านสถานะทั้งคนที่เน้นเล่นเกมและเน้นเล่นเน็ตมาแล้ว ขอให้คำแนะนำแบบง่ายๆว่า ไม่ต้องไปซีเรียสครับอยากเล่นก็เข้าไปเลย เพราะร้านไหนๆก็เล่นได้ทั้งเกมทั้งเน็ตกันทั้งนั้น ไม่ได้แบ่งแยกแบบสมัยก่อนแล้ว เพียงแต่ที่หลายๆคนยังไม่กล้าเข้าร้านเน็ตเป็นเพราะคิดว่าพวกเล่นเกมเป็นคนส่วนใหญ่ในร้านเน็ตเท่านั้นเอง

ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็ใช้บริการร้านเน็ตได้ทั้งนั้น

ก่อนจะจบตอนแรกนี้…อีกอย่างที่ผมอยากจะขอเสริม คือ ผู้หญิงเองก็สามารถเข้าร้านเน็ตได้ อย่างสบายใจนะครับ เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ร้อยกี่พันปี ร้านเน็ตกับผู้ชายก็หนีกันไม่พ้น ยังไงมันก็มีผู้ชายอยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้เวลาเข้าร้านเน็ตผมก็แทบจะเห็นผู้หญิงอยู่ทุกครั้งนั่นแหละ ทั้งเล่นเฟซบุ๊ค ดูยูทูป วิดีโอคอล พิมพ์งาน และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้น ถ้าอินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ ผมคิดว่า ร้านเน็ตก็ควรเป็นสิ่งที่ทุกคนก็เข้าถึงได้ เช่นกันครับ

Facebook Comments