เปิดใจคุย!! วิเคราะห์ผลงานทีมชาติไทยใน Overwatch World Cup 2018

สิ้นสุดกันไปแล้วสำหรับ Overwatch World Cup 2018 ในรอบ Group Stage เมื่อ 14-16 กันยายนที่ผ่านมา หลายๆคนที่ได้ติดตามการแข่งไม่ว่าจะไปดูสดหรือดูผ่าน Twitch คงทราบผลกันแล้ว และเชื่อว่าแต่ละคนมีสิ่งที่อยากจะพูดหรืออยากระบายอะไรกับการแข่งในครั้งนี้ ในฐานะที่เป็นแฟนเกมคนหนึ่ง ก็ขอเป็นหนึ่งเสียงที่จะมาพูดให้แฟนๆ Overwatch ได้ฟังกันว่าเราคิดยังไงกับทีมชาติไทยใน Overwatch World Cup 2018 ครั้งนี้บ้าง

สรุปการเล่นของทีมไทยชุด OWWC 2018

– Saiyajingod ถึงมาช้าแต่ผลงานจัดว่าดี

แม้จะมีโอกาสลงสนามแค่ 2 แมตช์ในวันสุดท้าย แต่ Saiyajingod (เปา-กันตพัฒน์ ตั้งฑีฆะรัตน์) ก็ทำได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะ Off-Tank ทั้ง D.Va และ Zarya ที่ช่วยทีมได้ดี และดูเหมือนว่าจะโดดเด่นกว่า Mickie ซะอีก โดนเฉพาะอัลติ Self-Destruct ที่ได้คิลกลับค่อนข้างบ่อย และ Graviton Surge ที่ใช้งานได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังทำให้ Mickie เปลี่ยนไปเล่น Brigitte ได้สะดวกขึ้นด้วย

สรุปแล้ว Saiyajingod ถือเป็นคีย์แมนที่ทำให้ไทยเล่นได้หลากหลายแผนมากขึ้น และแต่ละคนก็ไม่เสียตำแหน่งประจำของตัวเองมากนัก แม้ว่าส่วนหนึ่งอาจจะเพราะไทยไม่ได้เข้ารอบแล้ว เลยคลายความกดดันไปได้มากขึ้นด้วยก็ตาม

– Pannys และ Rocket สองซัพพอร์ตผู้อยู่เบื้องหลัง

ส่วนตัวไม่ติดใจอะไรมากกับตำแหน่ง Support เพราะเล่นได้โอเคกันทั้งคู่ โดยเฉพาะ Ana ของ Pannys (อิ๊ง-ภาสวิชญ์ สวัสดิ์ชูโต) ที่เล่นได้ดีมาก ทั้ง Nano Boost ให้ทีมชนะไฟท์บ่อยๆ รวมไปถึง Sleep Dart สวยๆอีกหลายช็อต ฝั่ง Rocket (เจมส์-วุฒิชัย โพธิ์สวัสดิ์) เองก็เล่น Lucio และ Mercy ที่เป็นตัวหลักได้ดีมากแล้ว เรียกว่าทั้งคู่เป็นผู้ปิดทองหลังพระให้ทีมจริงๆ

แต่ส่วนตัวก็แอบเสียดายที่ทีมไทยไม่เน้นแผน Phamercy (Pharah + Mercy) สักเท่าไหร่ เพราะแผนนี้ค่อนข้างป่วนมาก และไทยก็ถูกแผนนี้เล่นงานค่อนข้างเยอะ (เช่นในแมตช์ออสเตรเลีย) ไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะทีมไทยยังขาด DPS สาย Projectile เต็มตัวแบบ Agilities (แคนาดา) หรือ Shadowburn (รัสเซีย) ก็ได้ ทั้งที่ไทยเองก็สามารถเล่น Pharah ได้แม้จะไม่มี Mercy คอยหนุนอยู่ก็ตาม

– แจ้งเกิด Patiphan และ Teetawat ผู้เล่นหน้าใหม่ที่ทั่วโลกชื่นชม!!

นาทีนี้คงไม่พูดถึงไม่ได้กับ Patiphan (ปั้น-ปฏิภาณ ไชยวงษ์) ตำแหน่ง DPS หลักของทีมชาติไทยชุดนี้ ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กอายุ 15 กับตำแหน่งที่หนักหน่วงและกดดันขนาดนี้ แถมยังเป็นครั้งแรกในนามทีมชาติด้วย แต่เด็กคนนี้ก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนชาวไทยและทั่วโลก ด้วยฝีมือ DPS ที่จัดจ้านไม่แพ้ผู้เล่นระดับโลก โดยเฉพาะ Genji และ Widowmaker รวมไปถึง Hitscan หลายๆตัวที่เรียกเสียงฮือฮาได้บ่อยๆ

แถมยังจับฮีโร่อีกมากมายรวมแล้วถึง 17 ตัวเลยทีเดียว คือเยอะแถมยังทำได้ดีจนมีคนถามเหมือนกันว่ามีตัวไหนที่เล่นไม่เป็นบ้างหรือเปล่า…

ตอนแรกคิดว่าคนไทยอวยไปเองหรือเปล่า คือน้องเขาช่วยแบกทีมจริงๆนั่นแหละ แต่มันจะขนาดนั้นเลยเหรอ!? แต่ว่าเมื่อมีกระแสทั้งจากไทยและต่างประเทศด้วย ก็แสดงให้เห็นว่า Patiphan เป็นผู้เล่นที่โลกกำลังจับตามองจริงๆ แถมยังเชียร์ให้เขามาเล่นใน Overwatch League เลยทีเดียว แต่ก็ติดที่ว่า Overwatch จะเปิดให้เล่นได้นานแค่ไหนนี่แหละ เพราะอายุยังขาดอีกหลายปีมาก (OWL ต้องอายุครบ 18 ปีจึงจะเข้าร่วมได้)

ส่วนอีกคนที่ต้องบอกว่าโดดเด่นได้ใจอีกคนคือ Tank หลักของทีมอย่าง Teetawat (บาส-ธีร์ธวัช ธีรยศโยธิน) ที่โชว์ฟอร์มแบกทีมได้อีกหนึ่งคนด้วยการเล่น Reinhardt, Winston และ Wrecking Ball ที่ป่วนคู่แข่งได้บ่อยๆ แม้กระแสจะไม่เปรี้ยงเท่าน้องปั้น แต่ต้องบอกว่าน้องบาสทำให้ทีมไทยสู้กับทีมอื่นได้สูสี แถมผอมลงแล้วก็ยังเท่ขึ้นเป็นกองอีกต่างหาก คาดว่าน่าจะมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอีกเพียบเลยทีเดียว

– Mickie และ Oputo สองเสาหลักผู้บอบช้ำ

สำหรับคู่ซี้รุ่นพี่อย่าง Mickie และ Oputo นั้น แฟนๆต่างทราบกันดีกว่านี่คือผู้เล่นที่ดีและมีชื่อเสียงที่สุดของไทย แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะได้กระแสตอบรับที่ย่ำแย่ เริ่มต้นที่ Mickie (มิกกี้-ปองภพ รัตนแสงโชติ) ที่ครั้งนี้จะจับ D.Va เป็นหลัก แต่ยังไงเขาก็ยังคงถูกกระแสแย่ๆจาก D.Va เก่า คอยหลอกหลอน ทั้งที่ก็ทำได้ดีพอสมควร ไม่ได้แย่อะไรมากมาย แต่ในฐานะผู้เล่น OWL และกัปตันทีมชาติก็คงกดดันมากพอดูที่ยังถูกพูดถึงเรื่องนี้ ส่วนฝั่ง Brigitte นั้นจัดว่าโดดเด่นสมคำร่ำลือ และยังช่วยทีมไทยไว้ได้หลายครั้ง จนอดคิดไม่ได้ว่าในบางสถานการณ์ Brigitte ของมิกกี้น่าจะช่วยทีมได้มากกว่า D.Va

แต่คนที่เรียกว่าถูกกดดันที่สุดคงหนีไม่พ้น Oputo (พุฒ-อุบล ดารา) ที่ครั้งนี้รับหน้าที่จับ Meta ใหม่อย่าง Sombra ที่หลายๆทีมในกลุ่มนี้ใช้ แต่ดูเหมือนว่าผลงานจะออกมาไม่ค่อยสู้ดีนัก และถูกกระแสทักท้วงกันมากมาย ใครติดตามเขาจะทราบดีว่าจริงๆฮีโร่หลักของเขาเป็น DPS เหมือนน้องปั้นแบบเป๊ะๆ ส่วนตัวมองว่านี่เป็นการเสียสละเพื่อทีมในฐานะรุ่นพี่นี่แหละ เพราะทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้เมนตัวนี้ และพุฒคือคนที่ได้รับหน้าที่นี้ไป

แต่เมื่อพอทีมผลงานออกมาแย่ DPS ดาเมจต่ำอย่าง Sombra คือจุดที่จะถูกโบ้ยความผิดก่อนเสมอ จนอดคิดไม่ได้ว่าเราจำเป็นต้องมี Sombra จริงๆหรือเปล่า เปลี่ยนเป็นดาเมจหนักๆ 2 คนไปเลยดีกว่ามั้ย อย่าง Hanzo ของพุฒเองก็ค่อนข้างแม่นและหวือหวาเลยทีเดียว นี่อาจจะช่วยได้มากกว่าการแฮคหรือรอคอมโบกับ EMP ที่ใช้เวลาเตรียมตัวนานหรือเปล่า

ทีมชาติไทยกับผลการแข่งใน Group Stage 3

Group Stage 3 ถือเป็นกลุ่มที่สกิลกลุ่มใกล้เคียงที่สุดแล้วในทั้ง 4 กลุ่ม ไม่มีใครเป็นตัวเต็งหรือไม้ประดับแบบชัดเจนเหมือน 3 กลุ่มที่เหลือ ดังนั้นผลการแข่งจึงคาดเดายากที่สุดไปด้วย นั่นหมายความว่าเรามีสิทธิ์ที่จะไป BlizzCon พอสมควร ถึงแม้ Skill Rate เฉลี่ยของผู้เล่นไทยจะต่ำที่สุด ส่วนตัวคิดว่าตรงนี้ไม่มีผลมากนัก เพราะผลงานโดยรวมแล้วไทยมีลุ้นที่จะเก็บแต้มในแต่ละแมพได้เป็นส่วนใหญ่ คือน้อยมากที่เกมจะทิ้งขาดลอย และผลต่างแต้มของไทยก็ไม่แย่ด้วย (เมื่อเทียบกับสเปน) แต่ก็คงพูดอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะสุดท้ายใครจบเกมได้ก็คือผู้ชนะ เอาเป็นว่าส่วนตัวยังโล่งใจที่ไทยยังชนะในแมตช์สุดท้าย 3-1 กับสเปน คว้าอันดับ 5 มาปลอบใจให้แฟนๆชาวไทยได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามแต่ก็อยากจะย้ำว่าทีมไทยไม่ได้อ่อนเลยนะ (แต่ก็อยากให้ผลออกมาดีกว่านี้) ถ้าให้ยกตัวอย่างก็เช่นในแมตช์กับจีนที่เป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม นี่เป็นแมตช์เดียวที่ไทยแพ้แต่ไปถึง Tiebreaker ได้ เรียกว่าเป็นแมตช์ที่ไทยแพ้แต้มแบบสูสีที่สุดจากทุกแมตช์ (3-2) ขณะเดียวกันจีนต้องเล่น Tiebreaker ถึง 3 ใน 5 แมตช์ในทัวร์นาเมนท์นี้ หมายความว่าจีนเองกว่าเก็บชัยชนะ 5 แมตช์รวด เข้ารอบเป็นอันดับ 1 ได้ก็หืดขึ้นคอไม่เบา

นี่เป็นความเห็นโดยรวมสำหรับทีมชาติไทยใน Overwatch World Cup 2018 ครั้งนี้ ต้องบอกว่า Group Stage ที่ 3 นี้สูสีกันมาก ส่วนตัวได้ไปดูสดๆด้วยก็สนุกมาก โปรดักชั่นก็มาจากทาง Blizzard เองด้วย และการจัดแข่งในไทยครั้งนี้ก็สร้างความพึงพอใจให้กับทาง Blizzard เอามากๆ ที่สำคัญการแข่งขันในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของวงการอีสปอร์ตไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้พอสมควรอีกด้วย

เอาเป็นว่าใครคิดเห็นยังไงมาคุยกันได้ และอย่าลืมเชียร์ทีมชาติไทยต่อไปด้วยนะ หวังว่าจะได้ไปแข่ง Overwatch World Cup รอบสุดท้ายที่ BlizzCon ในปีต่อๆไป ถ้าเป็นปีหน้าได้เลยก็ดีสิ!!

Facebook Comments