[Review] Assassin’s Creed: Odyssey – เกมที่ตามสูตรของรุ่นพี่

ในขณะที่ตลาดเกมในช่วงก่อนหน้านี้ยังคงร้อนแรงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเกมดังอย่าง DQ หรือ Spiderman ที่ออกมาให้เราได้เสียตังกันอย่างหมดตรูสกันทั้งเดือน และอย่างที่เราๆท่านๆทราบชะตากรรมกันดีแหละครับ ว่าเกมดังๆ จากค่ายยักษ์ใหญ่ มักจัดหนักในช่วงปลายปีกัน และมันก็ยังไม่หมดระลอกอยู่แค่นี้ (ยังมาอีกเยอะ เตรียมเงินกันไว้เถอะ ฮา) ซึ่งตุลาคมนี้เองก็มีคิวเกมเจ๋งๆจากซีรี่ยส์ที่เราคุ้นๆกันมาจ่อคอหอยเราอยู่เช่นเดิม และ 1 ในนั้นเองก็คือหน้าเก่าเล่าใหม่อย่าง Assassin’s Creed: Odyssey หรือ AC ที่เราๆคุ้นเคยกันมาตลอดนั้นเอง

เนื้อเรื่องย่อ

เรื่องราวของ Assassin’s Creed: Odyssey นั้นยังคงเป็นเรื่องของการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างกลุ่ม Knight Templar (หรือในยุคปัจจุบันของเกมใช้ชื่อว่า Abstergo) ซึ่งออกๆแนวตัวร้ายที่ต้องการจะสร้างโลกใหม่ที่ควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ กับ กลุ่มนักฆ่า หรือ Assassin ที่ต่อกรกับกลุ่ม Knight Templar อย่างลับๆ โดยการกีดกันไม่ให้กลุ่ม Knight Templar สามารถครอบครองวัตถุโบราณศักสิทธิ์ซึ่งมีอำนาจสามารถบงการโลกใบนี้ได้ และชิงค้นหาตำแหน่งของวัตถุศักสิทธิ์ให้ได้ก่อนเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในน้ำมือของ Knight Templar นั่นเอง

การดำเนินเนื้อเรื่อง 6.5/10

……. ใช่ครับอ่านเนื้อเรื่องย่อของภาคนี้ มันคือพล็อตเดียวกันกับของเกมเมื่อปี 2007 นั่นแหละ คือต่อสู้กันมาตั้งแต่ผมเรียนมหาลัยยันจะมีลูกละครับ ซึ่งถ้าดูจากสถิติ AC นี่เป็นเกมรายปีเลยทีเดียว โดยอิงพล็อตนี้มาตลอดแค่เปลี่ยนสถานะของตัวละครและยุคสมัย ถ้าให้นับกันจริงๆ นี่ก็ 10 ยุคสมัยเข้าไปละ ทำให้ผมเริ่มเอียนกับเนื้อเรื่องของเกมนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังได้ส่วนที่มาช่วยเหลือเหมือนทุกทีนั่นก็คือ เนื้อเรื่องของยุคสมัยนั้นๆที่เกมหยิบมาทำ ยังคงมีความน่าสนใจและเล่นกับประวัติศาสตร์จริงๆ อ้างคนที่มีอยู่ในยุคนั้นจริงๆ ให้เราได้อินและรู้สึกสนุกได้อยู่ ก็ถือว่าในส่วนของเนื้อเรื่องถือว่าสอบผ่าน แค่ถ้าเป็นแฟนที่เล่นเกมนี้มาตั้งแต่ต้นแบบผม คือเราจับทางได้หมดละครับ Ubisoft คิดใหม่เถอะนะมันเริ่มจะจำเจละ

การเล่าเรื่องผ่านตัวละครยังคงทำผ่านสองตัวละครในอดีตและปัจจุบันเหมือนเดิม ก็คือตัวละครในยุคปัจจุบันอย่าง Layla จากภาค Origin ที่เราได้เคยไปค้นหาต้นกำเนิดของ AC ในยุคคลีโอพลัตตากัน มาคราวนี้เราได้มาอยู่ในยุคกรีกโบราณ โดยตัวเกมให้เรามีสิทธิเลือกได้ว่าจะเล่นเป็นตัวละครชายอย่าง Alexios หรือ ตัวละครหญิงอย่าง Kassandra ซึ่งในเชิงการเล่าเรื่องแล้วแถบไม่มีอะไรต่าง บทพูดก็แทบจะเหมือนกันหมดเลยทีเดียว ซึ่งถึงแม้จะเราสามารถเลือกบทโต้ตอบได้เหมือนเกมภาษา แต่บ่อยครั้งที่เราเลือกที่ใช้คำตอบดิบๆโหดๆ แต่ตัวละครที่เราคุยด้วยกับไม่มีปฏิกิริยากับการกระทำในแง่ลบหรือบวกของเราเท่าไรนัก เช่นเราขู่ไป ตัวละครที่คุยด้วยแสดงท่าทีกลัวหัวหด แต่พอประโยคถัดดมาด่าเราแบบเสียแมวซะงั้น ถือว่ายังออกแบบ Dialog ได้ไม่ค่อยดีนัก

ข้อเสียอย่างหนึ่งสำหรับการดำเนินเนื้อเรื่องของภาคนี้ก็คือ บทพูดและเสียงพากย์แข็ง มากกกกก คือบางอันนี่แบบตั้งคำถามเลยทีเดียวว่าไปจ้างใครมาพากย์ให้เนี่ย แต่ไม่ใช่ทุกตัวละครนะครับที่ออกมาแย่ ตัวละครบางตัวนี่เรียกว่าดีจนน่าตกใจเลยทีเดียว แต่บางตัวละครเหมือนไปจ้างมือใหม่มาทำกันเลยทีเดียว ซึ่งน่าเสียดายมากเพราะ Cut Scene บางอันมีพลังและสวยงามมาก แต่พอมาเจอเสียงพากษ์แข็งๆ แปล่งๆ มันก็เลยตัดอารมณ์ชอบกล โดยรวมเอาเป็นว่าสอบผ่านละกันในจุดนี้ แต่ห่างไกลกับคำว่าเยี่ยมมากนัก แต่ที่ต้องขอติมากหน่อยเป็นพิเศษก็คือ เกมนี้ไม่มีการปูเนื้อเรื่องให้ต่อกันกับภาคก่อนให้ผู้เล่นหน้าใหม่บ้างเลย ภาคนี้มาถึงปั๊บกระโดดไปอดีตเลยจ้า ปูให้หน่อยก็ดีนะสำหรับคนไม่เคยเล่น ขนาดผมเล่นทุกปีบางทียังลืมเลย

สุดท้ายรู้สึกว่าบทพูดของตัวเอกของเราจะออกไปทางแมนๆ บางครั้งฟัง Kassandra พูด (สำหรับใครที่เลือกเล่น Kassandra) อาจจะรู้สึกแปลกๆ ทะแม่งๆนิดนึง

Graphic and Level Design 7.5/10

ในส่วนของเรื่องความสวยงามของภาพ สภาวะแวดล้อมต่างๆ ถือว่าสอบผ่าน น้ำเป็นน้ำ ฟ้าเป็นฟ้า แสงแสบตา รายละเอียดสวยงาม เงาดูกลมกลืน แต่ถ้าจะให้พูดแบบบ้านๆ ก็เหมือนเอา AC: Origin มาเปลี่ยน Skin ไม่ได้มีการยกระดับอะไรมากนักจากของเก่า แต่ก็อย่างว่านะครับ เครื่อง Console ตอนนี้ก็ปลาย Gen กันแล้วเลยอาจจะทำได้ไม่สวยมากมายนัก จากการที่ได้ทดสอบใน PS4 ธรรมดา ไม่ใช่ pro ก็มีบางช่วงสะดุด Frame Rate ดรอปลงมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ถึงขนาดทำให้เสียอรรถรส

ส่วนที่ภาคนี้กลับทำได้แย่คือการเคลื่อนไหวสีหน้าและท่าทางของตัวละคร บางตัวนี่ออกแบบมาประหลาดๆ คือทำดูแข็งๆไม่เนียน เหมือนทำ Motion Capture มาไม่ดี ดูตลกๆ ไม่เข้ากับบทพูด ในช่วงแรกของเกมจะรู้สึกจุดนี้ได้ดีเลย สำหรับการออกแบบฉากต่างๆ ออกแบบฉากมาได้สวยงาม มีออกแบบซ่อนสิ่งของของต่างๆไว้ให้เป็น Challenge เบาๆ ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างโอเคเลย ขอบ่นนิดนึงคือทำไมซี่รี่ย์นี้ทำหน้าตาม้าออกมาได้ไม่สวยเลยให้ตายเถอะ

Game Play 8.0/10

สำหรับในรูปแบบการเล่นนั้น ก็ยังคงยกเอาส่วนดีของภาค Origin มาเช่นเดิมคือมีความเป็น RPG ไม่ใช่เหมือนภาค 4-5 ปีก่อนที่กด Counter ฆ่าศัตรูได้หมดทั้งแก๊งสบายๆ ภาคหลังๆ เลเวลไม่ถึงของไม่ถึงโดนตบร่วงเหมือนเดิมจ้า แต่ก็จะมีส่วนที่เพิ่มมาก็คือโหมดเรือ (จริงๆนี่ก็หากินกับของเก่า) ก็ถือว่าเพลินดี ข้อดีคือโลกของเกมในภาคนี้มีขนาดที่โคตรใหญ่ คือคงเล่นกันได้ทะลุ 40 ชม. สบายๆ Side Quest นี่เรียงกันเป็นตับ แถมถ้าใครอยากได้ประสบการ์ Hard Core เราสามารถปิดโหมดตัวช่วยบอกตำแหน่งภารกิจต่างๆในเกมได้ด้วย ภาคนี้ก็เช่นเดียวกับภาคที่แล้วที่เราสามารถเลือกอัพสกิลได้ว่าอยากจะเล่นสายยิง สายบู๊ สายลอบฆ่า แต่กระนั้นเองก็ไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไรมากเท่าไร แต่ก็ยังถือว่าเป็นเกมเพลย์ที่ยังเล่นได้เรื่อยๆเหมือนเดิม
เนื่องจากสกิลมีให้อัพเยอะ และพวกอาวุธชุดเกราะก็ยังมีให้เล่นเยอะเหมือนเดิม คือเหมือนกันกับ AC: Origin นั่นแหละ และที่สำคัญของใหม่ที่เพิ่มมาคือเหมือนโหมดจีบสาว ซึ่งส่วนตัวอยากให้ทำเพิ่มตรงนี้อีก (ฮา) คือมีน้อยไปหน่อยเหมือนไม่ค่อยได้เล่น (ถ้าได้แบบ Witcher ได้ก็ดี ฮา) ในส่วนการควบคุมเกมยังคงพบปัญหาเดิมๆ อยู่ คือบางทีสั่งให้ไปทางนี้ ปีนไปทางนี้ ยังไม่ค่อยไปตามสั่งเท่าไร ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญนิดนึงถึงจะบังคับได้เป๊ะๆ

Sound Effect and Music 7.5/10

เสียงเพลงประกอบและเอฟเฟคต่างๆทำได้ดี เพลงกระกอบบางอันนี่อลังมาก ส่วนตัวแอบรู้สึกว่ายังคงมีกลิ่นของ Jesper Kyd อยู่เหมือนเดิม แต่บางส่วนแอบรู้สึกได้ถึงความเป็น Witcher ซึ่งหลายๆ อย่างในเกมนี้ก็เหมือนเกมอย่าง Witcher มากๆ ทำให้รู้สึกว่ามันคล้ายๆกันจริงๆในส่วนของเพลงไปด้วย

สรุป 6.5/10

ต้องบอกก่อนนะครับว่าจริงๆเกมนี้เป็นเกมส์ที่เล่นได้สนุกแน่นอนสำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเกมนี้มาก่อน เพราะระบบต่างๆนั้นเกมส์นี้ทำออกมาได้ดีเลย แต่สำหรับคนที่เล่นมาทุกภาคแบบผมแล้วเป็นอารมณ์เหมือนเอาระบบของเก่าๆ แต่ละภาคมาปัดฝุ่นและใส่เนื้อเรื่องใหม่สกินใหม่เอามาหากินให้เราเล่นอีกครั้งนึง แอบรู้สึกว่าถ้าทีมพัฒนาให้เวลากับเกมนี้มากขึ้นซักนิดนึง ไม่จำเป็นต้องออกทุกปีแบบนี้น่าจะได้เกมที่น่าสนใจและสนุกมากกว่านี้ก็ได้ แต่อันนี้ก็ส่วนตัวนะครับ ลองอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และลองตัดสินใจกันดู ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากที่ค่ายรีวิวเกมสำนักใหญ่ต่างๆกลับให้คะแนนเกมนี้ไปในทางที่ค่อนข้างดี แต่รีวิวที่ผู้เล่นจริงๆได้ลงไว้กลับได้คะแนนที่แย่มากเลยทีเดียว ส่วนตัวผมนั้นถือว่าเกมนี้สนุกดี แต่ถ้ามีงบจำกัดคงเก็บตังไปรอ Red Dead Redemption 2 ดีกว่าครับ แหะๆ

Facebook Comments
REVIEW OVERVIEW
Assassin's Creed: Odyssey
6.5
Facebook
Twitter
Google+
Pinterest
Previous articleความฝันที่เป็นจริง – Bowsette โผล่ไปอยู่ในเกม Super Mario Bros. U!!
Next articleASUS ROG เปิดตัว Gaming Laptop – 3 รุ่น 3 Lifestyle! (Intel Core i7 8750, GTX1060 ทุกรุ่น!)
Le New
Le New ผู้ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ เริ่มเก็บ EXP ตั้งแต่เครื่อง Famicom ที่พ่อซื้อให้ ยันลามไปถึง PS4 และหลงไหลในการเล่นเกมทุกรูปแบบโดยเฉพาะ RPG และ HORROR จนสุดท้ายลามมาถึง Gadget และ Accessory ต่างๆ ได้โปรดเชื่อในคำพูด Le New ได้ เพราะเค้าจะบอกว่า "เชื่อผม ผมเป็นเกมเมอร์....เชื่อผมเต๊อะ!"