[Review] Marvel’s Spider-Man : ไอ้แมงมุมขยุ้มนิวยอร์ค ฝันเป็นจริงของแฟนมาร์เวล

งาน PSX 2018 ที่พึ่งจัดไปนั้นมีการเปิดตัวเกมใหม่ๆน่าสนใจหลายต่อหลายเกม หนึ่งในนั้นก็คือเกม Marvel’s Spider-Man เกมไอ้แมงมุมภาคใหม่ล่าสุดจากค่าย Insomniac เจ้าของผลงานเกมระดับเทพหลายเกม อาทิ Resistance, Sunset Overdrive และ Clank ซึ่งเกม Marvel’s Spider-Man ที่ผมกำลังจะพูดถึงนี้คือผลงานแรกของค่ายนี้ ซึ่งก็เหมือนมวยถูกคู่ เพราะผม (ผู้เขียน) ไม่เคยเล่นเกมซีรี่ย์ Spider-Man มาก่อน จะได้มีจับต้องก็คือเกม Spiderman GBA เมื่อเกือบ 15 ปีที่แล้ว แถมเล่นวนแค่ด่านแรกด่านเดียวด้วย ดังนั้น Marvel’s Spider-Man (2018) จึงถือว่าเป็นเกมแรกในซีรีย์นี้ที่ผมได้เล่น และผมจะมาเล่าความรู้สึกหลังเล่นในมุมมองของ First-timer ให้ฟังครับ

Plots

ฮีโร่ตื่นเช้ามา ก็เต๊ะท่าก่อนเลยทีนึง

อย่างที่บอกว่าผมไม่เคยเล่นเกม Spider-Man ภาคใดมาก่อนเลย ดังนั้นเนื้อเรื่องของไอ้แมงมุมอัพเดทล่าสุดในหัวผมคือเนื้อเรื่องจากเวอร์ชั่นหนังโรงครับ ตอนภาค Green-Goblin โน้นเลย ตอนที่ผมเห็น Gameplay ของ Marvel’s Spider-Man ในงาน E3 2018 เลยค่อนข้างมึนๆเรื่อง Timeline กับตัวละครเหล่าร้ายที่โผล่มาตอนท้ายสุดนิดหน่อยว่าใครเป็นใครครับ

ตัวร้ายเกมนี้บางตัวก็คุ้นหน้า บางตัวผมก็ต้อง Google เหมือนกัน 55+

พล๊อตเรื่องภาคนี้หลักๆที่ผมจับได้ก็คือหนุ่ม Peter Parker ที่ยังคงใช้ชีวิต 2 หน้าด้านหนึ่งเขาคือนักวิจัยในห้องแลปธรรมดา กับหลานสุดน่ารักของป้าเมย์ แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็คือ Spider-Man ผู้ผดุงความยุติธรรมนิสัยขี้เล่น (บางทีก็มากเกินไปนิด) ภายใต้หน้ากากสีแดง เขาให้ความช่วยเหลือตำรวจในการตามจับอาชญากรต่างๆที่กระจายอยู่ทุกซอกทุกมุมของ Manhattan หนึ่งในพล๊อตหลักของเกมภาคนี้จึงอยู่ที่ความพยายามของ Peter ในการใช้ชีวิต 2 ด้านที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงให้เป็นความลับ รวมไปถึงพยายามคืนดีกับแฟนสาว Mary Jane ซึ่งในขณะเดียวกัน Manhattan ที่ปกติก็วุ่นวายอยู่แล้ว จะยิ่งวุ่นหนักขึ้นไปอีกเมื่อเหล่าร้ายตัวเป้งๆศัตรูคู่อาฆาตของ Spider-Man ต่างพร้อมใจกันก่อการวินาศสันตะโรโดยมิได้นัดหมาย แล้วไอ้แมงมุมของเราคนเดียวจะไหวไหมเนี่ย?!

Peter กับ Mary นัดเดทกันหลังเลิกงาน

Gameplay

สไตล์การเล่นของ Marvel’s Spider-Man จะเป็น Open-World ที่ให้เราสามารถห้อยโหนปีนป่ายตึกรามบ้านช่อง สำรวจ Manhattan ได้อย่างอิสระ โดยระหว่างทางก็จะมี Sidequests, Collectable, Minigame, Randomและอื่นๆนอกเหนือจากเควสเนื้อเรื่องหลักให้เราเล่นมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการห้อยโหนที่ตลอดการเล่นเกือบ 10+ ชม. ของแทบนับนิ้วครั้งที่ไอ้แมงมุมผมเท้าแตะพื้นได้เลย การเคลื่อนไหวทำได้ลื่นไหล ต่อเนื่อง และให้ความรู้สึกคล่องแคล่วสมกับเป็นไอ้แมงมุมจริงๆครับ

ขวา! ซ้าย! กลิ้งหลบแล้วยิงใย!

ด้านการต่อสู้ไอ้แมงมุมของเรายังคงใช้หมัดเตะ เท้าต่อยเช่นเดิม โดยจะมีการพ่นใย, สวิงข้าวของในฉาก และทักษะแมงมุมอื่นๆมาให้พลิกแพลงใช้ตามสถานการณ์ หรือต่อกรกับศัตรูบางประเภท เช่น ครั้งหนึ่งผมสู้กับสมุนถือโล่ที่เตะต่อยธรรมดาทำอะไรมันไม่ได้ ก็ต้องล่อให้มันตีก่อนแล้วใช้ “Spider-Sense” กดหลบกลิ้งไปตีมันข้างหลังเป็นต้น และเกมนี้ศัตรูมาเยอะมาก (เรียกว่าหมาหมู่น่าจะเหมาะกว่า) ทำให้การกะจังหวะหลบด้วย “Spider-Sense” เพื่อทำการ Counter กลับหรือการกดคอมโบที่หลากหลายนอกเหนือจากการกด Spam ปุ่มสี่เหลี่ยมอย่างเดียว เป็นสิ่งที่จำเป็นมากยิ่งในระดับความยากสูงๆ (ขณะรีวิวผมเล่นความยากสูงสุด) ที่แม้แต่กุ๊ยกระจอกๆตามซอกซอยยังอัดแรงยังกะรถบรรทุก แล้วไอ้แมงมุมเราแม้จะไว ก็ไม่ได้ถึกเหมือนเดอะฮักค์ โดนไม่กี่ทีก็หน้าจูบพื้นได้ง่ายๆ

เข้าใจว่ากลัวแมงมุม แต่ใส่หมดแม๊คงี้ก็เกินไปนะ..

แต่สัญลักษณ์ “Spider-Sense” บนหัว Spider-Man นั้นก็กลืนกับแวดล้อมเหลือเกินมองยากมากกก.. เมื่อบวกเข้ากับ “ความนัวเนียวุ่นวาย” โดยเฉพาะจังหวะที่ศัตรูเยอะๆ ทำให้ผมตายเพราะกดหลบไม่ทัน หรือไม่ก็โดน “รุมสกรัม” ตายครับ แน่นอนว่าหากใครที่ไม่ชอบการเล่นลุยซึ่งหน้า เกมนี้ก็สามารถเล่นแบบลอบเร้นได้เช่นกัน ด่านภารกิจบางด่านก็จะเน้นการซ่อนตัวและไล่เก็บทีละตัวมากกว่าการเผชิญหน้า แต่ก็เท่านั้นครับเพราะเกมนี้เหมือนต้องการให้เราเน้นบู๊ ระบบ Stealth ในเกมจึงพื้นฐานมากๆ

ถ้าโดนจ๊ะเอ๋ล่ะก็มี 2 ทางเลือกก็คือเข้าโหมดฮีโร่แอคชั่นลงไปนัวเนีย หรือถ้าอยากเล่น Stealth ต่อก็กดรีด่านใหม่ครับ ทั้งนี้ตลอดการเล่นเกมผมสังเกตเห็นว่าบางภารกิจที่บังคับให้ผู้เล่นจัดการกับศัตรูในแผนที่ให้หมด ในบางครั้งที่แผนที่เป็นอาคารหลายชั้น หรือมีแผนผังซับซ้อน มักจะมี “บัค” ในเกมที่แม้เราจะจัดการศัตรูหมดทั้งแผนที่แล้ว แต่ตัวเกมก็ยังไม่ให้เราไปต่อครับ แม้จะเจอไม่บ่อยนัก (นานๆทีหน) แต่ก็ทำให้ต้องกด Restart ด่านใหม่เหมือนกัน

มินิเกมต่อท่อ ที่ให้รางวัลเป็นของอัพเกรดตัวละคร

อีกเรื่องหนึ่งคือตัวละคร Mary Jane แฟนสาวของหนุ่มแมงมุมเราที่ดูเหมือนจะมีบทบาทมากกว่าที่ผมเคยรู้จักในเกมนี้ เธอจะมีส่วนเกมเพลย์ของตัวเองที่ออกแนวนักสืบ, เก็บเบาะแส แก้ไข Puzzle สลับไปมากับเกมเพลย์ที่เราเล่นเป็น Spider-Man ปกติ ซึ่งในความรู้สึกของผมถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ ช่วยให้ตัวเกมมีความแปลกใหม่ครับ อย่างไรก็ตาม Puzzle ในเกมก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นการเปรียบเทียบรูปภาพ, มินิเกมต่อท่อ Pipe หรือไต่ใยสวิงตามตึกเก็บของทำนองนี้ครับ

Skills & Gadgets

Skill ที่อัพได้หลังเลเวลอัพ ทำให้ไอ้แมงมุมเก่งและพริ้วขึ้น

แน่นอนว่าด้วยความที่เกมนี้เป็น Open-World ระบบอัพเกรดตัวละครจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เมื่อไอ้แมงมุมเราทำภารกิจหรือซับวายร้ายหมอบกระแตสำเร็จก็จะได้ค่า EXP เมื่อเก็บได้ครบจำนวนก็จะ Level Up สามารถนำ Skill Point ไปปลดล๊อคความสามารถใหม่ๆ ที่จะช่วยเราในเรื่องต่างๆเช่นมีคอมโบในการต่อสู้ให้ลองเล่นมากขึ้น หรือห้อยโหนเคลื่อนที่ไปมาว่องไวมากขึ้น เล่นท่ายากได้หลากหลายขึ้น

นอกนั้น Gadget ของเล่นแมงมุมก็สำคัญ

นอกจาก EXP แล้วในการทำภารกิจหลักหรือย่อย หรือแม้แต่การเก็บ Collectible เราจะได้สิ่งที่เรียกว่า “Token” ที่การใช้งานหลักคือเอาไปอัพเกรดอุปกรณ์และชุดแมงมุมของเราครับ โดยการอัพเกรดหรือการเพิ่ม Mod (Modification) แก่อุปกรณ์แต่ละอย่างก็ต้องการ Token ต่างชนิดต่างจำนวนกัน ดังนั้นจงซอกแซกช่างสังเกตให้เหมือนแมงมุม เพราะของเหล่านี้มีค่า ว่างๆห้อยโหนตึกผ่านก็แวะเก็บกันก่อนนะครับ

Graphics

อย่างแรกที่ผมอยากพูดคือโมเดลตัวละครและหนังหน้าที่ทำออกมาได้สวยเลยทีเดียว อย่าง Peter Parker เราก็ทำออกมาได้อารมณ์หนุ่ม Geek หน่อย, สาว Mary Jane ก็ดีไซน์ออกมาได้ลุคนักข่าวสาวแกร่งแต่น่ารัก และเหล่าตัวร้ายที่ก็มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง แม้จะเทียบไม่ได้กับ เกมที่เน้นฉาก Cinematic อย่าง Detroit: Become Human แต่สำหรับเกม Open-World อย่าง Marvel’s Spider-Man 2018 คุณภาพนี้สำหรับผมถือว่าผ่านเกณฑ์ครับ

ป้าเมย์ผู้คอยดูแล Peter แม้กระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม

นอกจากตัวละครแล้ว บรรยากาศในเกมก็เป็นเรื่องสำคัญ และผมขอบอกอย่างมั่นใจเลยว่าเกาะ Manhattan ในเกม Marvel’s Spider-Man นั้นสวยงามมาก โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่ตะวันสีส้มอมแดงจะสาดส่องไปตามตึกรามอาคารต่างๆ และไอ้แมงมุมของเราก็ห้อยโหนไปตามตึกเหล่านี้ คือมันสวยมากเลยครับ เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุดระหว่างการเล่นเกมนี้เลย อยากรู้สวยขนาดไหนลองไปชมดูครับ โชคดีจริงๆเกมนี้มี Photo Mode ให้เก็บภาพสวยๆอย่างนี้ได้ตลอดทั้งเกม!

ผมชอบช่วงตะวันตกดินสุดแล้วครับในเกม สวยงามมาก

Conclusion

ฮีโร่ก็ต้องมีเวลาพักอัพ Facebook ตัวเองมั้งนะ

สำหรับผมที่ไม่เคยเล่นเกมซีรี่ย์ Spider-Man มาก่อน Marvel’s Spider-Man (2018) สำหรับเกมแรกของ Insomniac ถือว่าเป็นเกมคุณภาพที่เล่นได้สนุกและเพลิดเพลินจนลืมเวลา ด้านพล๊อตเรื่องก็เหมือนว่าทางผู้พัฒนาพยายามประติดประต่อเนื้อเรื่องให้แม้แต่คนที่ไม่รู้จัก Spiderman มาก่อนก็สามารถเข้าใจเนื้อเรื่องโดยรวมๆและสนุกไปกับมันได้ บวกกับถือโอกาสแนะนำตัวละครและเหล่าร้ายหลักๆในซีรี่ย์แมงมุมกับเหล่า First-Timer อย่างพวกผมไปในตัวด้วยเลย เกมเพลย์แม้จะมีบัค/Glitches ในบางจุดเป็นครั้งคราว หรือดีไซน์ Interface บางอย่างที่อาจดู/ใช้งานยากไปบ้างก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรใหญ่โตที่ทำให้ความสนุกในการเล่นเกมของผมลดลงแต่อย่างใด นี่คืออีกหนึ่งเกมคุณภาพที่ทำออกมาได้สมความคาดหวังของเกมเมอร์และแฟนซีรี่ย์นี้ครับ

Facebook Comments