ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่าผมเป็นคนกลัวเกมผีครับ และจำได้เลยว่าสมัยเด็กๆที่พี่ชายเล่นเกม Silent Hill , Resident Evil หรือแม้กระทั่งแนวซอมบี้ ผีดุทั้งหลาย ในห้องนอน วันนั้นผมจะหอบผ้าหอบหมอนออกมานอนข้างนอก เพราะกลัวมาก ขนาดที่ปกกล่องเกมผมยังกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ในระยะ 5 เมตร
แต่อาการเหล่านี้เริ่มดีขึ้นเมื่อผมได้ลองเล่น Resident Evil 5 เป็นเกมแรกของซีรี่ย์นี้ที่ผมได้เล่น ขอบคุณที่เกมนี้มีความเป็นแอคชั่น ทำให้ผมสามารถเล่นจนจบได้ 2-3 รอบโดยไม่เขวี้ยงจอยทิ้งเพราะความกลัวซะก่อน ตั้งแต่นั้นความกลัวก็กลายเป็นความหลงใหลครับผมก็ชอบเล่นเกมผีมานับแต่นั้นเลย ด้วยการเล่น Resident Evil 4 ที่สมัยเด็กผมกลัวมากๆจบเป็นเกมที่ 2 ตามมาด้วย Silent Hill, Clock Tower, Siren และอื่นๆอีกมากมาย
และล่าสุดกับเกม The Evil Within 2 หลอนจิตสั่นประสาทภาค 2 ที่ผมได้มีโอกาสเล่นและจะมาแชร์ประสบการณ์ให้เหล่าเกมเมอร์สายผี หรือเกมเมอร์ที่อยากลองเกมผีเป็นเกมแรกเหมือนผมกับ Resident Evil 5 ได้ฟังกันครับ
PLOT
พล็อตเรื่องภาคนี้จะต่อจากภาคที่แล้วครับ เซบาสเตียนตัวเอกที่สูญเสียทุกอย่างไปในภาคที่แล้ว จนต้องจมปลักอยู่ใต้ขวดเหล้าต้องกลับมาเผชิญกับฝันร้ายใน STEM (คล้ายๆเครื่อง Virtual ใน The Matrix หรือ Animus ใน Assassins’ Creed) อีกครั้งเพื่อไปช่วยชีวิตลูกสาวของเขาที่ติดอยู่ในโลก STEM ที่ตอนนี้สภาพไม่ต่างอะไรกับนรกบนดิน เนื้อเรื่องสำหรับผมถือว่าทำออกมาได้โอเคครับ มีการเล่นกับแนวคิดทางจิตวิทยา การปูพื้นของตัวละครแต่ละคนก็ดูมีที่มาที่ไป แม้จะดูกระชับไปสักนิดแต่โดยภาพรวมถือว่ามีการพัฒนาไปในทางที่ดีจากภาคแรกครับ
GAMEPLAYS
เกมเพลย์ภาคนี้เซอร์ไพร์ผมมากครับ ด้วยความที่ผมคิดว่าเกมแนวนี้จะดำเนินเรื่องเป็น Chapter หรือตอนๆไป แต่เปล่าครับ The Evil Within 2 ใช้แนวการเดินเรื่องเป็น Mission หรือภารกิจโดยแบ่งเป็นภารกิจหลัก(Main Mission) และภารกิจเสริม(Side Mission) ตามแบบเกม Open World อย่าง The Witcher 3 หรือ Shadow Of War ครับ และแผนที่ก็ออกแบบให้กว้างพอสมควร ให้ผู้เล่นได้สำรวจโลกสั่นประสาทนี้อย่างจุใจ ส่วนเรื่องของศัตรูนั้นมีค่อนข้างเยอะ และหลากหลายพอควรครับ เดินกันขวักไขว่ตามท้องถนนหรือหลบตามซอกหลืบในบ้านคอยดักกระซวกตับเราแทบทุกที่
Gunplay และระบบ Stealth ในเกมทำออกมาได้มาตรฐานเกมยิงแนวบุคคลที่สาม(Third Person) ทั่วไปเสียงยิงปืนดูมีนำ้หนัก โดยเฉพาะปืนลูกซองหรือสไนเปอร์ที่กลายเป็นอาวุธสุดโปรดของผมในการเป่าเหล่าซอมบี้และสัตว์ประหลาดในเกมให้อยู่ห่างๆพี่เซบเรา หรือสอยหัวจากดาดฟ้าไกลก็ยังได้ ส่วนระบบ Stealth ถือว่าโอเคครับเพราะตัวเกมค่อนข้างออกแบบมาให้เราเน้นการหลบๆซ่อนๆ ทำ Stealth Kill มากกว่าบู๊ล้างผลาญแบบแรมโบ้ เนื่องด้วยศัตรูค่อนข้างเยอะ และถึกประกอบกับตัวพี่เซบเองก็พกกระสุนอาวุธได้ไม่เยอะ และเป็นโรคกระดูกขาดแคลเซียมอย่างรุนแรง วิ่งได้ไม่ถึง 10 เมตรก็หอบแฮ่กๆ, ยิงปืนก็เป้าส่ายยังกะคนอดนอน และโดนศัตรูลูกกระจ๊อกต่อยไม่กี่ทีก็นอนแล้ว ไม่เหมาะกับคนที่ทำอาชีพนักสืบเลยจริงๆ โชคดีที่ยังมีระบบการอัพ Skill จาก Green Gel ที่เก็บจากการกำจัดศัตรู ให้เราอัพเกรดพี่เซบให้บึกบึนขึ้นบ้าง แต่แนะนำว่าให้เล่น Stealth ดีกว่าครับ ชีวิตจะง่ายขึ้น
ATMOSPHERE
บรรยากาศในเกมถือว่าทำออกมาได้หวิวๆ หลอนๆ สั่นประสาทเข้ากับธีมเกมที่เล่นกับจิตใจของคนเราดีครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความกดดัน, JumpScare และ Deathtrap ที่ผมอยากพูดถึง
เริ่มที่ความกดดันในเกมก่อน ตัวเกมกดดันมากครับตอนผมเล่นถึงกับต้องพักหายใจเป็นช่วงๆ เพราะไม่ใช่แค่ความยากถึงยากมากตอนช่วงต้นเกมที่ศัตรูตบเรา 3 ทีตายแล้ว เรื่อง JumpScare เกมนี้รับประกันเลยครับประตูทุกบาน, Side Mission แทบทุกอัน, บ้านแทบทุกหลังที่เราเข้าไป เห็นเงียบๆโล่งๆเนี่ยมันต้องมีตัวอะไรโผล่ออกมาแน่ และสุดท้ายคือกับดักหลอกมาตายหรือ DeathTrap ครับผู้เขียนตายไปหลายต่อหลายรอบ(และเกือบหัวใจวาย)ด้วยกับดักที่วางไว้อย่างแนบเนียน ในรูปแบบของที่ตกตามพื้น, หีบ หรืออาคารที่ให้เราเข้าไปสำรวจอย่างอิสระ ออกแบบมาดีส่วนมากเดาทางไม่ออก จนอดชมไม่ได้
แนะนำเลยครับผู้ที่จะเล่นเกมนี้ควรเก็บ Side Mission ให้ครบก่อนเล่นเนื้อเรื่อง จะได้ประสบการณ์ที่คุณต้องการจากเกมผีอย่างแน่นอน
ARTIFICIAL INTELLIGENTS
มาถึงเรื่องสุดท้ายแต่สำคัญอย่างระบบ AI ของศัตรูครับ เป็นเรื่องเดียวของเกมนี้ที่ผมอยากจะติเลย ศัตรูในเกมหลักๆที่เราจะเจอคือพวกซอมบี้ครับ และแม้ซอมบี้เหล่านี้จะเซ้นส์ดี ฝีเท้าเร็วขนาดไหน เสียที่พวกมันตาถั่วครับ ประมาณว่าวิ่งไล่กวดกันมาติดๆแล้วเราไปย่อหลบหลังรถ พวกมันก็จะมองไม่เห็นเรา และเดินมึนๆอยู่แถวนั้นก่อนจะเลิกไล่ล่าเราในที่สุด ซึ่งด้วยความที่ว่า AI เกมเป็นแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าเราสามารถขี้โกงเกมด้วยการปาดคอซอมบี้ตัวหนึ่ง พอโดนเจอก็วิ่งกลับไปหลบตามรถหรือพุ่มไม้ แล้วก็ลูปอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกวาดได้หมดถนน สำหรับศัตรูที่ประหลาดขึ้นมาหน่อยวิธีการนี้ก็ยังคงใช้การได้ แต่ก็ได้ความอึดหรือบางตัวที่ฆ่าไม่ตายมาทำให้เกมไม่ดูง่ายเกินไป
CONCLUSION
ถือว่าเป็นเกมผีเกมล่าสุดที่ทำออกมาได้สนุกเกินกว่าที่คาดหวังไว้ด้วยซ้ำ โดยส่วนตัวแล้วเกมเมอร์ที่เป็นคอเกมผีหรือแม้กระทั่งเกมเมอร์มือใหม่ที่กล้าๆกลัวๆอยากลองเกมผีเกมแรกที่ไม่จัดจ้านเกินไป แต่ได้อารมณ์ความน่ากลัวอย่างลงตัว The Evil Within 2 คือเกมที่ดีมีคุณภาพ เหมาะแก่การหามาสะสมเป็นอย่างยิ่ง
