The Last Guardian เป็นเกมที่เกือบจะเป็น masterpiece เหมือนกับที่ The Shadow of Colossus หรือ ICO ทำให้กับวงการเกมเพราะการออกแบบกลไกการเล่นที่ฉลาด และฉากที่ตระการตาพร้อมกับเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม แต่ถูกหักคะแนนด้วย control ที่ล้าสมัยไม่เฉียบคม กับมุมกล้องที่เทอะทะ ทำให้เกมนี้อาจจะยากในการควบคุมตอนแรกๆและทำให้ประสบการณ์การเล่นอาจจะติดขัดไปบ้าง

1566273-952634_20100915_002

The Last Guardian เป็นผลงานของทีม ICO ซึ่งทีมเดียวกันที่ผลิตเกม The Shadow of Colossus  และ ICO ซึ่งทั้งสองเกมนี้ล้ำมากในยุคของมัน และเกม The Last Guardian นั้นก็เห็นได้ว่ามีเสน่ห์ของทั้งสองเกมนี้อยู่ในนั้น แนวเกมนั้นคล้ายกับทั้งสองเกมที่ มีการ interact กับ AI ที่เป็นคู่หูของเรา (ไม่ว่าจะเป็นคน หรือ ม้า หรือ หมาบวกกริฟฟิน) และช่วยเหลือกันเพื่อแก้ปริศนา ทางทีมงานได้ประกาศครั้งแรกเมื่อปี 2006 แต่เนื่องจากปัญหาภายใน จึงเกิดการเลื่อนแล้วเลื่อนอีก บวกกับการที่ต้องเปลี่ยน platform จาก PS3 เป็น PS4 อีก จึงทำให้เกมล่าช้ามาเกือบ 10 ปี

20160921_163538_0_0

เนื้อเรื่องย่อ 9/10

การดำเนินเรื่องเริ่มต้นที่พระเอกกำลังเล่าย้อนถึงประสบการณ์ของเค้าตอนที่เป็นเด็ก โดยเกมเปิดฉากมาที่ถ้ำแห่งนึง เราได้บังคับเด็กผู้ชายคนนี้ที่ตื่นขี้นมาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว และก็ร่วมชะตากับ Trico (トリコ, Toriko) สัตว์ในเทพนิยายที่มีหน้าตาเหมือนหมากับกริฟฟินผสมกัน เพราะติดอยู่ในถ้ำ พระเอกไม่มีความทรงจำเลยว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรแต่เราก็ได้เริ่มการเดินทางเพื่อพยายามกลับไปที่หมู่บ้านของเค้า

โดยเราต้องอาศัยความช่วยเหลือจาก Trico เพื่อไขปริศนาต่างๆและเราเองก็ต้องช่วยเพื่อนเราเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการดึงหอกที่ปักตัวมันออกหรือ หาอาหารให้มันกิน หรืออาศัยความตัวเล็กของเรามุดเข้าไปในซอกเพื่อเปิดประตูอีกฝั่งนึงเป็นต้น

20160923_203520_0_0

เมื่อดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ เราจะรู้สึกว่าผูกพันกับ Trico มากขึ้นทำให้การดำเนินเรื่องตื่นเต้นและเห็นได้ชัดว่าผู้ผลิตเกมเอาใจใส่ส่วนนี้มาก โดยเฉพาะช่วงหลังของเกมที่ทั้งคู่ต้องเผจิญกับชะตากรรมที่ไม่คาดถึง คือผมไม่อยากพูดมากเพราะเดี๋ยวจะสปอยเนื้อเรื่อง แต่ขอบอกเลยว่ามันทำให้เราอินมาก สิ่งเดียวที่อยากจะติคือช่วงแรกๆรู้สึกคือการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้า อาจทำให้ใครที่มีความอดทนน้อยเบื่อเอาได้ง่ายๆ

Gameplay 5/10

เกมนี้เป็นเกมที่เกี่ยวกับความสัมพันระหว่าง Trico กับเราโดยแนวเกมของเกมนี้คือ Action/Adventure Puzzle โดยเราสามารถบังคับได้เฉพาะตัวเด็กเท่านั้น โดยสามารถปีน กระโดด โหนห้อยหน้าผาต่างๆ นอกจากนั้น เราสามารถเรียก Trico ให้มาหาเราหรือปีนตัวมันได้ โดยเริ่มต้นเนี่ย Trico ยังจะไม่ค่อยไว้ใจเรา แต่เมื่อดำเนินเรื่องไป Trico ก็จะเริ่มไว้ใจเราและเชื่อฟังเรามากขึ้น เราก็สามารถทำอย่างอื่นกับ Trico ได้อย่างเช่นปลอบมันหรือสั่งมันได้ซึ่งในช่วงแรกๆเราเองกะว่าจะแยกทางกับมันด้วยซ้ำเพราะเราเองก็ไม่ได้อยากให้ Trico ติดตามมาเหมือนกัน แต่สิ่ง ที่ปะทับใจก็คือเนื้อเรื่องดำเนินไปโดยแทบจะไม่มีบทสนทนากันเลย การสื่อสารส่วนใหญ่ผ่านภาษากายของ Trico และ เราพูดใส่เหมือนวิธีเดียวที่เราพูดกับหมาที่บ้านเราด้วยซ้ำ

20160923_155925_0_0

การต่อสู้ไม่ใช่เป็นส่วนหลักของเกมนี้เลย ตัวเอกเองไม่สามารถหยิบอาวุธมาใช้ได้ด้วยซ้ำ ในเกมเราจะเจอกับรูปปั้นหินที่ถูกสาปเพื่อโจมตีเรา โดยเราต้องพึ่ง Trico คู่หูเรามาจัดการกัดศัตรูเหล่านี้ แต่การจัดการนี้ก็ใช่ว่า Trico จะทำด้วยความเฉยชา บ่อยครั้งเมื่อกำจัดศัตรูเสร็จ เราต้องเข้ามาปลอบใจ Trico ทำให้เรารู้สึกว่ามันต้องการเราเป็นที่พึ่งและนำมันออกไปจากที่นี่

สิ่งที่ผมประทับใจคือ การออกแบบปริศนาในแต่ละฉาก เพราะว่ามันซับซ้อนและลงตัวในฉากของมัน อย่างเช่นมีตอนนึงที่มีหน้าผากั้นอยู่ระหว่างประตูทางเข้าวิหาร เราไม่สามารถข้ามไปได้แต่เราสั่งให้ Trico พังประตูลงมาแต่ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คาดคิด เสาเลยล้มลงมาทำลายพื้นไปด้วย เราเลยต้องมุดเข้าไปและวกกลับมาเรียก Trico ให้กระโดดขึ้นมาอีกทางแทน

20161006_024356_0_0

หนึ่งในปัญหาที่เจอตั้งแต่ต้นๆเกมคือเรื่องของมุมกล้อง เนื่องจาก Trico ตัวใหญ่มากและทางเดินบางทีค่อนข้างแคบ จึงทำให้บ่อยครั้งที่กล้องติดเข้าไปอยู่ในตัว Trico หรือภาพดำไปเลย หลายครั้งที่ผมตายต้องเริ่มใหม่เพราะเหตุนี้ เพราะมีฉากที่ต้องใช้ความแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดไปโหนเถาวัลย์ หรือวิ่งหนีศัตรูก็ตาม อยู่ดีๆ Trico ก็จะมาบัง ทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย

การควบคุมพระเอกก็เป็นอีกปัญหานึงที่ผมประสบ เนื่องจากการบังคับค่อนข้างลำบากและไม่พิดี บางครั้งไม่รู้จะวิ่งหรือจะย่องดี กดแรงไปก็วิ่งตกเหวอยู่หลายครั้ง กดเบาไปก็อืดจนน่ารำคาญ การบังคับให้ตัวเอกให้กระโดดหรือวิ่งนั้นไม่สามารถทำให้มันเหมือนที่ควรจะเป็นได้ จึงทำให้ผมรู้สีกหลุดออกมาจากโลกนั้นทันที

กราฟฟิค 7/10

20160927_133312_0_0

สีสันของเกม The Last Guardian สามารถสื่อบรรยากาศได้สุดอารมณ์มาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินเข้ามาเจอน้ำตกในถ้ำ หรือ การปีนป่ายซากวิหารที่ตั้งอยู่บนยอดเขา เรารู้สึกได้ถึงอารยธรรมที่เคยเฟื่องฟูและเริ่มเรียนรู้เรื่องราวของการล่มสลายของมัน และทุกครั้งที่เราปีนขึ้นไปบนตัว Trico ก็สัมผัสได้ถึงขนที่สลวยของมัน แต่หลายครั้งที่ต้องถูกดึงอารมณ์นั้นออกมาเพราะ frame rate ที่ตกจนไม่อยากจะเชื่อว่าเกมนี้อยู่บน PS4 เพราะภาพไม่ได้คมชัดเหมือนเกมสมัยใหม่อย่างเช่น Uncharted 4 ผลการแสดงภาพเหมือนมันมาจาก Playstation 2 ซึ่งผมคาดว่าอาจเป็นปัญหาจากตัว code ของเกมที่ไม่เรียบร้อย ส่วนตัวพระเอกก็รู้สึกว่าขาดรายละเอียดไปนิดแต่อาจจะเป็นการตัดสินใจของผู้สร้างเกมเพราะ Tricoเห็นขนได้เกือบทุกเส้น

เลเวลดีไซน์ (9/10)

วิหารที่เกือบจะพังเป็นฉากที่สวยมาก รายละเอียดเล็กๆที่ทำให้สงสัยว่าวัฒนธรรมที่เคยเฟื่องฟูสมัยก่อนเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้ทั้งหมดล่มสลายลงมา บวกกับความมืดที่แฝงในมุมต่างๆ แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป อีกทั้งการออกแบบ puzzle ให้ใช้พื้นที่อย่างเต็มที่ จนรู้สึกว่าผู้ผลิตใจใส่กับมันจริงๆ

20161012_231309_0_0

การออกแบบฉากที่ซับซ้อนและฉลาดเหลือเกิน หลายๆครั้งเราต้องใช้เวลากับแต่ละส่วนเพื่อหาทางแก้ปัญหา และรู้สึกดีเมื่อแก้ปัญหาได้โดยใช้เครื่องมือที่เรามีอยู่ บางครั้งเราคิดไม่ถึงก็ทำให้ติดอยู่ที่เดิมนานพอควร ไปกินข้าวอาบน้ำแล้วถึงคิดออกก็มี ช่วงหลังๆในเกมจะมีอยู่บางจุดที่ต้องอาศัย Trico มาช่วยแต่เพราะด้วย AI ของ Trico ที่มีนิสัยเหมือนหมามั้ง ต้องรออยู่นานกว่าจะมาถึงผ่านจุดนี้นไปได้ ก็ทำให้การแก้ปริศนาแปลกไปอีกแบบนึง

20161006_034039_0_0

บทสรุป

เกมนี้เป็นเกมที่ผมเผ้ารอมาตั้งแต่ประกาศครั้งแรกในปี 2006 ผมเล่นไปได้ประมาณ 9 ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มเขียนรีวิวนี้ คาดว่าเกมนี้คงใช้เวลาประมาณ 12-14 ชั่วโมงถึงจะเล่นจบ ถามว่าชอบมั้ย? ก็บอกได้ว่าชอบเพราะ The Last Guardian เอาหลายๆส่วนที่ ICO และ The Shadow of Colossus มารวมกันได้ดี ไม่ว่าจะเป็น puzzle ที่แยบยลหรือเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม โดยเรารู้สึกถึงมิตรภาพที่ค่อยๆถูกสร้างระหว่าง Trico กับตัวเอกตลอดทั้งเกม แต่สุดท้ายแล้วความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นจากมุมกล้องที่เทอะทะและการควบคุมที่หนืดๆ ทำให้เกมนี้ไม่รู้สึกว่าเป็นเกมที่เพิ่งออกเหมือนกับเป็นการยกเกมมาจากเครื่อง PS3 หรือแม้กระทั่ง PS2 ด้วยซ้ำ ถ้าทีมงานสามารถอัพเดทแก้ปัญหาส่วนนี้มันจะทำให้เป็น Game of the Year ก็เป็นได้ หรือลดราคาผมก็คงสามารถแนะนำเกมนี้ให้เพื่อนๆได้

Developer: Worldwide Studios
Publisher: Sony Entertainment
Platform: PS4
Price: 1,840 บาท


ทางทีมงานได้รับ Review Code ของเกม The Last Guardian จาก Sony Entertainment แต่ไม่ได้มีผลต่อข้อคิดเห็นของทีมงาน Gaming Room ใดๆทั้งสิ้น

Facebook Comments