ช่วงนี้ผู้เขียนดูข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศก็รู้สึกเป็นกังวลกับปัญหาคาบสมุทรเกาหลี ที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆเอาแน่เอานอนไม่ได้ สื่อสำนักข่าวบ้านเราและต่างชาติก็ให้ความสนใจกับกรณีฟาดปากกันระหว่างผู้นำประเทศโสมแดงเกาหลีเหนือ และประธานาธิปดีแห่งสหรัฐนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีญี่ปุ่นเอาเท้าก่ายหน้าผากละเหี่ยใจ ตัวเองก็ไม่อยากมีเรื่องกับใครแต่ดั้นไปอยู่คั่นระหว่างเกาหลีเหนือและอเมริกาพอดิบพอดี
ประเด็นของเกาหลีเหนือนั้นเป็นอะไรที่น่าศึกษาครับ ด้วยรูปแบบการปกครองที่ตัวเกาหลีเหนือบอกว่าเป็นประชาธิปไตย(ที่ทั้งประเทศมีอยู่พรรคเดียว) และนิสัยของท่านผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ต้องการนำพาประเทศเล็กแห่งนี้ไปสู่ความเป็นมหาอำนาจ “ด้วยอำนาจการทหาร” มีการอวดว่า “เราพร้อมทำสงครามแล้วนะ!” อยู่เนืองๆ อีกทั้งนโยบายปิดประเทศอยู่กันเอง จึงไม่แปลกที่เมื่อมีเกมอะไรออกมาแล้วผู้พัฒนาอยากจะหาวายร้ายในเกมที่มันแปลกใหม่ เกาหลีเหนือจึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไป
หากเราเคยดูภาพยนต์โดยเฉพาะแนวสายลับหรือสงครามทั้งหลาย เกาหลีเหนือนั้นมีปรากฎตัวตั้งนานแล้วครับ เช่นหนังสายลับผู้ดีอย่าง JAMES BOND ก็มีภาค DIE ANOTHER DAY ที่เปิดเรื่องด้วยสายลับหน้าหยกเราถูกจับขังอยู่ที่เกาหลีเหนือ, หนังเรื่อง RED DAWN(2006) ที่เป็นเวอร์ชั่นรีเมคที่เล่าถึงเหตุการณ์เกาหลีเหนือบุกสหรัฐ(ออริจินัลเป็นจีนบุก) และล่าสุดกับหนังที่ลามปามเป็นกระแสสังคมอย่าง THE INTERVIEW ที่ตอนหนังออกใหม่ๆ ฝ่ายรัฐบาลเกาหลีเหนือก็ออกตัวชี้ขาดให้ทางสหรัฐฯจัดการแบนหนังเรื่องนี้ทันที เพราะไม่เช่นนั้นเกาหลีเหนือจะถือว่าหนังเรื่องนี้เป็นการ “ทำลายเกียรติของเกาหลีเหนือ และเป็นการประกาศสงคราม
แบบอ้อมๆ” พูดอย่างนี้ทำเอาโรงหนังทั่วสหรัฐฯและนานาประเทศแทบจะต้องหยุดการฉายรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่องนี้แทบไม่ทันเลยครับ
จะเห็นว่าเกาหลีเหนือนั้นมีฐานะตัวร้ายในโลกภาพยนต์มานานแล้ว แต่ในวงการเกมนั้นพึ่งเป็นที่รู้จักครั้งแรกก็คงจะเป็นเกม CRYSIS ครับที่เล่าถึงทีมตัวเอกของเราที่เป็นทหารนาวิกโยธินในชุดพาวเวอร์สูทโครตไอเทคในภารกิจสอดแนมในดินแดนป่าเขาสุดกว้างขวางของเกาหลีเหนือเพิ่มเติมมีเอเลี่ยนเข้ามาด้วย สำหรับตัวผมนั่นคือครั้งแรกครับที่ได้เห็นเกาหลีเหนือในฐานะตัวร้ายในโลกวิดีโอเกมจริงๆจัง และหลังจากนั้นเกาหลีเหนือในฐานะตัวร้ายนั้นก็มีโผล่มาวับแวมๆ บ้างในเกมอย่าง HOMEFRONT และภาคต่อ HOMEFRONT : THE REVOLUTION ที่คราวนี้จัดเต็มเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกาหลีเหนือสามารถยึดเกาหลีใต้รวมเป็นประเทศเดียวกันได้และเริ่มทำการบุกตีประเทศแถบเอเชียทีละประเทศจนสุดท้ายก็จบที่การยกพลขึ้นบกในดินแดนพญาอินทรีและเป็นจุดเริ่มต้นของเกมครับ ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเลือกใช้เกาหลีเหนือนั้น จากการศึกษาและประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนก็คิดว่าเกิดจากเหตุผลเหล่านี้ครับ
ยอดขายในตลาดต่างประเทศ
ยุคสมัยเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยน ตลาดเกมก็เช่นกันจากที่เมื่อก่อนการพัฒนาเกมจะเน้นการทำขายในครัวเรือน ในประเทศ ปัจจุบันเกมเริ่มมีการวางจำหน่ายในระดับนานาชาติมากขึ้นและหนึ่งในตลาดเกมที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลกก็คงหนีไม่พ้นประเทศอย่างจีน หรือรัสเซีย ดังนั้นผู้พัฒนาก็รู้อยู่แก่ใจว่าหากเกมของตัวเองวางให้หนึ่งในสองประเทศนี้เป็นตัวร้าย เกมเมอร์ประเทศนั้นต้องเคืองแน่ๆ แถมตัวเกมมีสิทธิ์ในรัฐบาลประเทศนั้นๆแบนอีกต่างหาก ดังนั้นทางแก้ที่ดีที่สุดก็คือหาตัวตายตัวแทนมาเป็นตัวร้ายแทน และใครจะเหมาะสมไปกว่าประเทศเล็กๆแต่ซ่าส์ไม่แพ้ใครอย่างเกาหลีเหนือล่ะครับ?
ประเด็นด้านการเมือง
ในช่วงหลังๆมานี้เกาหลีเหนือค่อนข้างท๊อปฟอร์มมาก ตั้งแต่การวิจัยอาวุธนิวเคลียร์แบบ(ไม่)ลับ เมื่อถูกนานาชาติเตือนก็ไม่แคร์ยิงทดสอบอาวุธได้เช้าเย็น ล่าสุดไม่นานนี้ก็มีเหตุที่ว่าเกาหลีเหนือลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ที่บินข้ามหัวประเทศญี่ปุ่นไปตกลงที่เกาะกลางมหาสมุทรโดยอ้างว่าเพื่อทดลองยิงขีปนาวุธในมีอานุภาพสามารถบินไปถึงทวีปอเมริกาได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอยู่หลายครั้งสร้างความหวาดพวาให้กับผู้ที่อยู่อาศัยที่ญี่ปุ่นจนต้องมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกครั้งที่โสมแดงนึกอารมณ์ดี อยากลองเทสหัวจรวดข้ามทวีปขึ้นมา
อีกเรื่องหนึ่งก็คือประเทศเพื่อนร่วมชาติแต่อยู่คนละประเทศอย่างเกาหลีใต้ ที่อันนี้เกิดจากผลกระทบตกค้างจากสงครามคาบสมุทรเกาหลี(KOREAN WAR, 1950-53) ที่เป็นสงครามตัวแทนระหว่างฝ่ายอเมริกากับ
จีน-รัสเซีย(PROXY WAR) ทำให้จนตอนนี้เกาหลีเหนือและใต้ก็ยังคงอยู่ในสภาวะสงคราม ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง(ARMISTICE) กันอยู่ แม้จะมีความพยายามที่จะรวมประเทศ แต่เกาหลีเหนือก็ยืนยันชัดเจนว่าหากรวมประเทศ นั่นหมายความว่าเกาหลีใต้จะต้องมาร่วมกับเกาหลีเหนือเท่านั้น ไม่ใช่อีกทางหนึ่ง กลายเป็นสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยากได้อย่างเดียวกัน แต่ดันตกลงกันไม่ได้เพราะไม่มีใครยอมใครครับ แถมเกาหลีเหนือเองก็ชอบที่จะแหย่เกาหลีใต้อยู่ประจำว่าจะส่งกำลังรบไปยึดเมืองนู้นเมืองนี้ ทำเอาคนผวากันอยู่เป็นระยะๆแล้วแต่อารมณ์ครับ
ซึ่งอันที่จริงก็เป็นเรื่องที่นานาชาติเป็นห่วงอยู่ เพราะถ้าเกิดเกาหลีเหนือวันดีคืนดียกพลบุกเกาหลีใต้จริงๆล่ะก็ ระยะทางจากเขตปลอดทหาร (Korean Demilitarized Zone, DMZ) ที่เป็นเหมือนเส้นแบ่งเขตเกาหลีเหนือและใต้ กับเมืองหลวงเกาหลีใต้กรุง SEOUL นั้นอยู่ใกล้กันมากๆเลย ใกล้ขนาดไหนลองเปรียบเทียบจากภาพถ่ายทางอากาศดูครับ
ความลึกลับของประเทศปิด
ต้องบอกว่าเกาหลีเหนือในขณะนี้คือประเทศที่เต็มไปด้วยความลับแล เหมือนเป็นดินแดนที่ยังไม่มีใครบุกเบิกอย่างไรอย่างนั้นครับ เนื่องจากความที่ตัวเกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด คนนอกห้ามเข้า คนในออกคือตาย เราเลยแทบไม่รู้เลยว่าเกาหลีเหนือนั้นมีสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไรกันแน่? ผู้คนใช้ชีวิตอย่างไร อาหารการกิน, แวดล้อม, เศรษฐกิจในประเทศ, นโยบายการเมือง, ตอนนี้ทำอะไรอยู่? ไม่มีใครทราบแน่นอนจะมีก็เพียงภาพหรือวิดีโอจากนักข่าวที่ไปทำข่าวในประเทศซึ่งก็มักถ่ายทำในที่ๆทางการเกาหลีเหนือจัดไว้ให้เท่านั้น การแอบถ่ายนั้นต้องเรียกว่าเป็นสิ่งที่อันตรายมากอย่างล่าสุดที่นักข่าวต่างชาติไปแอบถ่ายภาพตลาดยามเช้าของเกาหลีเหนือ(ภาพด้านบน) มาก็เสี่ยงโดนสถานเบาคือตะเพิดออกจากประเทศ ไม่ก็สถานหนักโดนจับขังลืมครับ
อีกเรื่องที่สำคัญสำหรับประเด็นนี้คือ เนื่องจากเกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด สินค้านำเข้าต่างๆ รวมไปถึงเกมก็ถูกปิดกั้นด้วย อย่าว่าแต่ได้มีโอกาสเล่นเกมหรือดูหนังอย่างที่เราดูเลยครับ ระบบอินเตอร์เน็ตของเกาหลีเหนือก็ถูกปิดกั้นเต็มรูปแบบ ใช้งานได้เพียงเว็ปไซต์ในประเทศที่ทางการเกาหลีเหนือดูแลอย่างเคร่งครัด นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้พัฒนาเลือกใช้เกาหลีเหนือเป็นวายร้ายในเกมครับ เพราะผู้พัฒนาไม่คิดว่าจะขาย(หรือขายได้)ในประเทศนี้อยู่แล้วนั่นเอง
ความอินดี้ของท่านผู้นำ(ประเทศ)
ท่านสุดยอดผู้นำคิม จอง อุนหรือที่รู้จักกันดีในฐานะ SUPREME LEADER หรือ “ท่านผู้นำ” เฉยๆนั้นคือเสาหลักของการปกครองในประเทศเกาหลีเหนือต่อจากผู้เป็นบิดาอย่างนายคิม จอง อิล หลังจากที่ท่านผู้นำคนใหม่ในทรงผมสุดเฟี้ยวเข้ามาดำรงตำแหน่งได้ไม่นานก็มีข่าวเด็ดๆออกมามากมาย ด้วยนิสัยสุดอินดี้ ตั้งแต่การทุ่มทุนวิจัยอาวุธนิวเคลียร์, ขีปนาวุธข้ามทวีปที่สร้างความระทมให้แก่ชาวปลาดิบอย่างที่กล่าวไปแล้ว ยังมีข่าวลือที่ส่งนักฆ่าไปปิดปากลุงตัวเองถึงต่างประเทศ ต่อหน้าธารกำนัลในศึกแย่งบัลลังค์ แถมเหมือนได้มวยถูกคู่มาอยู่ในยุคเดียวกับที่อเมริกาได้นายโดนัลด์ ทรัมป์มาเป็นประธานาธิปดี คุยกันไม่รู้เรื่องเจอหน้ากันทีไรหาเรื่องทะเลาะกันทุกที แต่เมื่อเป็นการทะเลาะกันระหว่างผู้นำ 2 ประเทศมันก็ทำให้คนเขาหวาดๆเหมือนกันว่าวันดีคืนดีนอนๆอยู่จะมีมิสไซล์ตกใส่หัวนี่สิ
