ทุกวันนี้ “Bitcoin” ซึ่งเป็น “สกุลเงินดิจิตอล” (Cryptocurrency) ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกเริ่มได้รับความสนใจในบ้านเรามากขึ้นทุกที แถมช่วงนี้ก็มีกระแสเกี่ยวกับ Bitcoin ออกมาถี่เป็นพิเศษด้วย
“กฎหมายไทยยังไม่รองรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล”
“ฝั่งจีนแบนสกุลเงินดิจิตอล จนค่าเงินทั่วโลกร่วงระนาว”
“การล่ารายชื่อยกเลิกการแบน Bitcoin ในเกาหลี”
เรียกว่าใครไม่รู้จัก Bitcoin มาก่อนก็ต้องได้ยินเข้าหูกันบ้างแหละช่วงนี้ ถ้าดูข่าวอ่ะนะ…
ต้องเกริ่นก่อนสำหรับมือสมัครเล่น (ที่ใช้เครื่องคอมที่ตัวเองมีอยู่แล้ว) ว่า “การขุด Bitcoin” (Mining) เป็นอะไรที่ไม่คุ้มเอาซะเลย!! ถึงแม้ว่าค่าไฟในบ้านเราถือว่าถูกแล้ว (3-5 บาทต่อยูนิต) คุณก็อาจจะขุดได้มาแค่ 10-150 บาทต่อวัน คุณต้องเจอกับปัญหาการ์ดจอเสื่อมด้วยความรวดเร็ว (เพราะใช้งานหนัก การ์ดจออาจจะพังภายในไม่กี่เดือน) และที่สำคัญคอมที่เราไว้เล่นเกมก็ไม่สามารถใช้ได้ระหว่างขุดด้วย
แต่นั่นก็ไม่ได้ปิดโอกาสของ “เกมเมอร์” ที่จะคว้านหาเงินดิจิตอลราคาหลักแสนบาทนี้ซะทีเดียว!! ดังนั้นเราลองมาดูกันว่าถ้าขุด Bitcoin ด้วยคอมพิวเตอร์เดิมๆ จะขุดแล้วคุ้มค่าแค่ไหน!?
คำนวณกันชัดๆ!! เกมเมอร์จะได้กำไรจาก Bitcoin จริงหรือไม่!?
สำหรับใครที่สนใจ Bitcoin แต่ไม่มีทุนสำหรับการขุดอย่างเต็มตัว งานนี้อาจจะต้องคิดหนัก เพราะคุณอยู่ในฐานะ “คนที่ไม่มีทุน” ไม่มีทุนกว้านซื้อการ์ดจอ ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟจำนวนมากๆ และไม่มีเงินเปลี่ยนการ์ดจอบ่อยๆ
ถ้าคิดจะใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปเพื่อขุด Bitcoin นี่คือคำถามที่หลายคนอาจจะสงสัย “แล้วมันจะได้ซักเท่าไหร่กัน!?” เรามาคำนวณกันดีกว่าว่าคำคอบคืออะไร…ในที่นี้เราจะใช้เว็บไซต์คำนวณมูลค่าของ Bitcoin ช่วยด้วยส่วนหนึ่งเพื่อความสะดวก
** ตัวอย่างเว็บสำหรับคำนวณการขุด Bitcoin **
www.cryptocompare.com
www.nicehash.com
whattomine.com
ต่อไปเป็นตัวแปรที่เราจะต้องใช้ในการคำนวณ หลักๆมีด้วยกัน 3 ส่วน ดังนี้
1. การ์ดจอ (GPU)
จริงๆแล้ว “การ์ดจอสำหรับขุด Bitcoin” (ASIC) ก็มีนะครับ แต่ตอนนี้เราอยู่ในเงื่อนไขคือ “การใช้ต้นทุนเดิม” นั่นคือการ์ดจอของเราจึงไม่ใช่ประเภท ASIC และจะใช้การ์ดจอเล่นเกมที่มีอยู่แล้วนี่แหละขุดเงินขึ้นมา!!
สมมุติว่าเราใช้ NVIDIA GTX 1070 Ti (เราที่เคยรีวิวไปแล้ว) เป็นการ์ดจอตัวอย่าง ซึ่งถือว่าเป็นการ์ดจอที่แรงมากตัวหนึ่งนะ ต่อไปให้เราดูว่าการ์ดจอที่มีอยู่เหมาะกับการขุดสกุลเงินไหน โดยดูที่ค่า “Hash Rate” เป็นหลักเพราะค่ายิ่งเยอะก็ยิ่งขุดเจอง่ายขึ้น (ลองคำนวณได้ที่ www.nicehash.com )
2. สกุลเงิน (Currency)
การเลือก “สกุลเงิน” ที่จะขุดก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะแต่ละสกุลเงินมีผลต่อกำลังไฟฟ้า (W) ที่ใช้ของการ์ดจอ รวมไปถึงมูลค่าที่เราจะได้รับกลับมาด้วย อย่างไรก็ตามบางการ์ดจอก็เหมากับสกุลเงินที่ค่าเงินต่ำกว่าเพราะขุดง่ายกว่า ลองชั่งใจดูว่าจะเลือกสกุลมูลค่าสูงแบบ Bitcoin หรือ สกุลที่เงินน้อยกว่าแต่ขุดง่ายกว่าแบบสกุล Ethereum
3. กำลังไฟ (W)
การเปิดคอมแน่นอนว่าต้องเสียค่าไฟด้วย โดยจำนวนไฟฟ้าที่ใช้จะคิดเป็น kWh (ค่าพลังงานไฟฟ้า 1000 วัตต์ต่อชั่วโมง) โดยนับเป็น “ยูนิต” ก็ให้เช็คดูว่าในระยะเวลากี่ชั่วโมง เราใช้ไฟฟ้าไปกี่ ยูนิต และเราจะเสียค่าไฟไปกี่บาท โดยมีสูตรคือ
[สูตรหาจำนวนยูนิตไฟ] กำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ (W) x จำนวนชั่วโมงที่ใช้งาน / 1,000
[สูตรหาค่าไฟ] จำนวนยูนิต x ค่าไฟต่อยูนิต = ค่าไฟ (บาท)
เมื่อได้จำนวน “ยูนิตไฟฟ้า” ที่ใช้ในการขุดแล้ว ก็เอามาคูณด้วย “ค่าไฟ” ตามจำนวนยูนิตที่ใช้ไป โดยเราจะนับเป็นรายเดือน และมีค่าไฟประมาณ 3-5 บาทต่อยูนิต ตามค่าเฉลี่ยจาก “ค่าไฟฟ้าอัตราก้าวหน้า ประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย” หรือถ้าจะคิดแบบละเอียดกว่านี้ไปเลยก็ลองไปศึกษาเพิ่มเติมได้
วิธีการคำนวณ “การขุด Bitcoin” โดยสังเขป
[1] เราจะเริ่มต้นจากค่าไฟกันก่อน โดยมีเงื่อนไขทั้งหมดดังนี้
– การ์ดจอ GTX 1070 Ti เพียง 1 ตัว // ใช้กำลังไฟฟ้ารวม 178 kWh
– เปิดคอมวันละ 24 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งหมด 30 วัน // รวมเวลา 720 ชั่วโมง
– ค่าไฟต่อยูนิต // 4 บาท
แทนค่าสูตร [หาจำนวนยูนิต] 178 x 720 / 1,000 = 128.16 ยูนิต
แทนค่าสูตร [หาค่าไฟ] 128.16 x 4 = 512.64 บาท
สรุปแล้วเราได้ค่าไฟในการขุดภายใน 1 เดือนรวมอยู่ที่ 512.64 บาท
[2] ต่อไปคำนวณคร่าวๆกับการขุด Bitcoin ว่าได้กำไรเท่าไหร่?
มีหลายเว็บไซต์ที่ช่วยคำนวนให้เราได้ (บางเว็บใส่รุ่นและจำนวนการ์ดจอได้ด้วย) จะเห็นว่าเราได้ “กำไรสุทธิ” (Profit) หลังจากหักค่าไฟฟ้า (El. Cost) อยู่ที่ 3,011 บาทต่อเดือน หรือเท่ากับ 0.0086 Bitcoin ดังนั้นกว่าจะขุดได้ครบกับต้นทุนที่เราลงไปตั้งแต่แรก (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าแอร์ และค่าชิ้นส่วนอื่นๆที่เราต้องลงทุน รวมราคาอยู่ที่ 17,500 บาท) แค่นี้ก็ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน!! (แถมการ์ดจออาจจะพังอีกด้วย!!)
คุณจะขุด Bitcoin ก็ได้ แต่ขอเตือนไว้หน่อย…
อย่างไรก็ตามการคำนวณ Bitcion ในที่นี้ก็ยังผิวเผินอยู่มาก และที่สำคัญเลยคือมีข้อระวังที่ต้องเตือนไว้ถ้าคิดจะขุด Bitcoin ด้วย “การ์ดจอแค่อันเดียว”
1. ค่าไฟที่คำนวณไปนี้เป็นส่วนของ “การ์ดจอ” อย่างเดียวเท่านั้น!! = นั่นคืออุปกรณ์อื่นๆต่างก็กินกำลังไฟไปพร้อมๆกับการ์ดจอ (แต่การ์ดจอน่าจะตะกละที่สุด) นอกจากนี้ประสิทธิภาพของเครื่องโดยรวมก็มีผลต่อการใช้กำลังไฟด้วย แน่นอนเครื่องแรงก็ใช้ไฟแรง ค่าไฟก็บานเบอะตามไปด้วย ทั้งหมดแล้วกำไร 3,000 กว่าบาทนี้คงจะไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
2. การ์ดจอจะเสื่อมสภาพเร็วแบบครึ่งต่อครึ่ง!! = ปกตินักขุดจะใช้การ์ดจอเพื่อขุด Bitcoin อย่างเดียว แถมมีการ์ดจอสำรองตุนไว้ 24 ชั่วโมงไม่ให้ขาดตอน เขาตุนกันเป็นคลังแสงเลยด้วยซ้ำ ก็เพราะแบบนี้แหละการ์ดจอถึงได้ขาดตลาด!! คิดว่าเกมเมอร์ธรรมดาอย่างเราคงไม่อยากจะซื้อการ์ดจอบ่อยๆหรอกมั้ง!?
3. การขุด Bitcoin ทำให้การ์ดจนร้อนจนปรอทแตก!! = คือการ์ดจอจะรับภาระหนักมาก และการ์ดจอจะร้อนมากถึงขนาดพัดลมเครื่องเอาไม่อยู่ แน่นอนพัดลมตั้งโต๊ะก็เอาไม่อยู่ ทางเลือกที่ดีคือการใช้แอร์มาเป่า สรุปคือ “ค่าไฟจากแอร์” ก็กลายเป็นอีกหนึ่งภาระที่ต้องแบกไว้ด้วย หรือถ้าคิดว่าไม่คุ้ม…อาจจะต้องพาไปแช่เย็น!? หรือไปขุด Bitcoin ที่ขั้วโลกก็ได้นะ เพราะมีคนทำแบบนั้นอยู่จริงๆ!!
สรุปแล้ว…เกมเมอร์ขุด Bitcoin แล้วคุ้มค่าหรือไม่!?
เกมเมอร์ที่ใช้คอมพิวเตอร์เดิมๆในการขุด Bitcoin ต้องบอกเลยว่า “ขาดทุน”!! ถ้าไม่มีการ์ดจอสัก 10-20 ตัว และอุปกรณ์อื่นๆเป็นกิจจะลักษณะ การขุดของคุณก็ไม่มีทางคุ้มค่าเลย เพราะแก่นแท้ของ “การขุด Bitcoin” คือการลงทุนที่ต้องใช้งบประมาณที่มากกว่า PC และการ์ดจอเพียงแค่ 1 ตัว
แต่ก็ยังมีทางเลือกอีกอย่างนะ ถ้าคิดว่าขุดแล้วไม่คุ้มเสีย นั่นคือ “ซื้อ Bitcoin มาเก็งราคา” วิธีนี้อาจจะง่ายขุดด้วยตัวเองก็ได้ (ถ้ามีเงินหนาพอนะ…) เพราะพูดอีกมุมหนึ่ง Bitcoin ก็ไม่ต่างอะไรกับ “การเล่นหุ้น” หรือ “การซื้อทอง” มาเก็งกำไรนั่นแหละ
อย่างไรก็ตามหากคุณยังนึกภาพไม่ออกว่า “การขุด Bitcoin” เป็นเรื่องจริงจังขนาดไหน วิดีโอด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นว่านี่เป็นทางเลือกหนึ่งของการหาเงินในยุคนี้อย่างเต็มตัวแล้ว
