ไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์ MMORPG หรือเกม Fighting บนคอนโซล เวลาจะเล่นเกมที่ต้องต่อสู้กันผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีวิธี “สร้าง” หรือ “เลือก” คาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง แต่เวลาทุกคนเลือกคาแรคเตอร์มาเล่นสักตัวเคยสังเกตบ้างมั้ยว่าตัวเองคำนึงถึงอะไรบ้าง? ยิ่งเกมที่สามารถ Customize ตัวละครได้ ผมยิ่งใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะเลือกได้

วันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังว่าเวลาเลือกคาแรคเตอร์มาเล่นผมคิดยังไงบ้าง และสไตล์คาแรคเตอร์ในเกมที่ผมเลือกนั้นเป็นแบบไหน

1. ภาพลักษณ์ภายนอก

ไม่ว่าจะในหรือนอกเกม สิ่งที่เรียกว่า “First Impression” ถือเป็นเรื่องธรมมชาติที่ไม่เว้นแม้แต่ในเกม จะเริ่มต้นเลือกคาแรคเตอร์สักตัวก็ต้องมองที่รูปร่างภายนอกก่อน แต่เคยสังเกตตัวเองบ้างมั้ยว่าระหว่างที่เลือกเรามองเห็นอะไรกันบ้าง

การสร้างหรือเลือกตัวละครเป็นอะไรที่คิดหนักเล็กน้อย

1.1 เพศของคาแรคเตอร์

สิ่งที่ทุกคนจะต้องคิดก่อนอย่างอื่นเลย คือ เราอยากเล่นคาแรคเตอร์ “ผู้หญิง” หรือ “ผู้ชาย” มากกว่ากัน (เกมสมัยนี้น่าจะยังไม่มีเพศที่สามให้เลือก) ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้สำคัญ เพราะคาแรคเตอร์ถือเป็นตัวแทนของเราที่จะเข้าไปอยู่ในเกม ฉะนั้นด้วยธรรมชาติแล้วเราจะมักจะสร้างหรือเลือกเพศของคาแรคเตอร์ที่ตรงกับชีวิตจริง คือ “ผู้ชายเล่นตัวผู้ชาย” และ “ผู้หญิงเล่นตัวผู้หญิง” เป็นเรื่องปกติ ทำให้เราสามารถแสดงความเป็นตัวเองได้ตามปกติ แถมไม่แย้งกับเพศของตัวละครเองด้วย

ตัวอย่างเช่นในเกมออนไลน์ MMORPG ผู้หญิงบางคนอาจจะ เผลอใช้หางเสียงว่า “คะ” หรือ “ค่ะ” ระหว่างเล่นคาแรคเตอร์ผู้ชาย คนในเกมที่เห็นก็คงแปลกใจอยู่บ้างแม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการปกปิดความเป็นหญิงในเกมมากน้อยแค่ไหนด้วย เป็นต้น

จะเลือกให้ตรงกับตัวเอง หรือ จะลองเปลี่ยนเพศดี!?

ส่วนเกมประเภทอื่นที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถสร้างคาแรคเตอร์ได้เองแบบ MMORPG จริงๆก็ถือว่าเรื่องเพศก็ยังมีความสำคัญไม่น้อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายๆเกมเราไม่อาจเล่นคาแรคเตอร์ตรงตามเพศของตัวเองได้ อย่างใน Overwatch สำหรับผมแล้วคาแรคเตอร์ผู้หญิงจะมีความสามารถที่ตัวผมชอบอยู่เยอะมาก ทั้ง Mercy, Mei, Pharah, D.Va, Orisa และ Ana ส่วนผู้ชายมีแค่ Genji, Reinhardt และ Lucio 3 ตัวนี้เท่านั้นเองครับ

ผู้หญิงโหดๆก็มีเยอะนะ!!

แต่กลับกันในเกม Fighting ทั้งหลายนั้น “ผมคงไม่เลือกเล่นคาแรคเตอร์ผู้หญิงแน่นอน” เพราะถือคติที่เป็นผู้ชายก็อยากเล่นตัวผู้ชาย แถมปัจจัยต่างๆในคาแรคเตอร์ผู้ชายก็ถูกจริตตัวเองอยู่แล้ว แถมเกมแนวนี้มักจะมีคาแรคเตอร์ผู้ชายให้เลือกเยอะกว่าด้วย ผมจึงไม่จำเป็นต้องเล่นคาแรคเตอร์ผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย

1.2 รูปร่างหน้าตา

มาถึงส่วนที่เรียกได้ว่าเป็นเรียกของรูปลักษณ์ภายนอกอย่างแท้จริงแล้ว รูปร่างและหน้าตาของคาแรคเตอร์มีส่วนในการสร้างหรือเลือกตัวละครเป็นอย่างมาก ต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของรสนิยมและประสบการณ์ของแต่ละคนล้วนๆเลย ซึ่งรูปร่างหน้าตารวมไปถึงเสื้อผ้าเองก็ช่วยให้เราเลือกคาแรคเตอร์สักตัวได้ง่ายขึ้นด้วย

รูปร่างหน้าตาดี สวยหล่อถูกสเปค!!

สำหรับผมแล้ว ผมจะติดภาพลักษณ์ที่คาแรคเตอร์ต้องดูดีไว้ก่อนเสมอ เช่น คาแรคเตอร์ตัวเอกของเกมหรือพรรคพวกของพระเอก เช่น Ryu, Ken, Chun-Li (Street Fighter) หรือตระกูลมิชิมะอย่าง Kazuya, Jin และ Kazumi (Tekken) อะไรพวกนี้ไปเลย ถ้าเป็นเกมออนไลน์ก็จะเป็นพวกคลาสอัศวิน นักเวทย์ และนักบวช เช่น Crusader, Wizard, Priest และ Monk (Ragnarok) ซึ่งทั้งหมดนี้มักจะรูปร่างหน้าตาดี (อย่างน้อยก็ไม่ขี้เหร่) ถึงร่างกายไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่ก็มีความสามารถสูงและให้ความรู้สึกคล่องแคล่วว่องไว คือเกมไหนมาผมจะเล่นคาแรคเตอร์พวกนี้ก่อนเลย

คนที่เลือกแนวพระเอก-นางเอกไว้ก่อนน่าจะมีอยู่ไม่น้อย

ใหญ่ ถึก บึกบึน ไว้ข่มขวัญคู่ต่อสู้!!

ถ้าผมบอกว่าชอบแบบข้อแรก นั่นหมายความว่าผมจะไม่ชอบคาแรคเตอร์ตัวใหญ่ อ้วนล้ำ หรือถืออาวุธใหญ่เทอะทะ ซึ่งมักจะเป็นสายแทงค์หรือกลุ่มพลังโจมตีและป้องกันสูง ส่วนใหญ่หน้าตาถึงขั้นขี้เหร่หรือเป็นสัตว์ประหลาดไปเลย เช่น Zangief, Honda และ Blanka (Street Fighter) Bob, Gigas, Jack-7 และ Yoshimitsu (Tekken) หรือ Roadhog (Overwatch) เพราะควบคุมแล้วให้ความรู้สึกเชื่องช้าและเกะกะสายตา

กำยำล่ำบึ้กแบบนี้…ไว้ใจได้!!

แต่ในทางกลับกันขนาดตัวที่ใหญ่ยักษ์ก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยเมื่ออยู่ทีมเดียวกัน ขณะเดียวกันพวกนี้ก็สร้างความกดดันให้เรารู้สึกว่าเล่นได้ลำบากด้วย ถ้าคุณมองข้ามรูปร่างหน้าตาแล้วทำให้ได้เปรียบในเกมการต่อสู้ล่ะก็ผมถือว่าคุณตัดสินใจได้ดีแล้ว เพราะคาแรคเตอร์กลุ่มนี้ทำให้ทีมเราได้เปรียบคู่ต่อสู้จริงๆ

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว…เลือกแบบไม่ใช่ “คน” ไปเลยดีกว่า!!

พอพูดถึงสัตว์ประหลาดแล้ว จริงๆเรื่อง “เผ่าพันธุ์” อาจจะต้องหยุดคิดนิดหน่อยว่าจะเลือกอะไรถ้าเป็นเกมที่มีทั้งมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์ เช่น สัตว์ ปีศาจ เอลฟ์ ยักษ์ เครื่องจักร ฯลฯ สำหรับผมนั้นตอบได้ง่ายมากว่า “ผมจะเลือกที่เหมือนมนุษย์ไว้ก่อนเสมอ” เหตุผลก็คงคล้ายกับเรื่องเพศนั่นแหละครับ คือ “เกิดเป็นคนก็ต้องเล่นเป็นคน” ง่ายๆแค่นั้นเอง อย่างน้อยก็คล้ายมนุษย์ไว้ก่อนก็ได้ เช่น เทวดา, เอลฟ์ และ ไซบอร์ก หรือคาแรคเตอร์ที่ดูเป็นมิตรกับโลกหน่อย เช่น Kuma กับ Panda (Tekken) หรือ Winston กับ Orisa (Overwatch) คงไม่คิดจะเลือกคาแรคเตอร์หลุดโลกแบบ Blanka (Street Fighter) หรือ Yoshimitsu (Tekken) สักเท่าไหร่

หลุดโลกขนาดนี้ บางคนอาจจะไม่กล้าเล่น…
แต่ถ้าน่ารักแบบนี้ค่อยน่าเล่นหน่อย!!

2. ความสามารถในการต่อสู้

มาถึงส่วนสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับเกมคือความสามารถ  มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกคาแรคเตอร์ออกมาเล่นสักตัวหนึ่ง

2.1 คลาส / อาชีพ / สไตล์การต่อสู้

สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยในการเล่นเกมต่อสู้ งั้นมาพูดถึงเกมออนไลน์ MMORPG กันก่อน ส่วนตัวผมจะพวกชอบคาแรคเตอร์แนวอัศวิน นักบวช กับนักเวทย์ (อิงตาม Ragnarok) หรืออะไรก็ตามที่ใกล้เคียงกัน อย่างใน Blade & Soul คลาสจะแบ่งตามสไตล์การต่อสู้ตรงๆเลย ถ้าให้เทียบกับที่ผมตั้งไว้คลาสที่ผมชอบในเกมนี้ก็จะเป็น Blade Master (อัศวิน), Kung-Fu Master (นักบวช), Force Master และ Summoner (นักเวทย์)

“นักเวทย์” ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบคาแรคเตอร์แบบสวยๆหล่อๆ

ส่วนคลาสที่คงไม่เล่นแน่ๆน่าจะเป็น Destroyer ที่เลือดเยอะและมีพลังโจมตีกับป้องกันสูง เแม้ว่าเกมนี้คาแรคเตอร์จะมีความเร็วสูงทุกคลาสแล้วในสายตาผม แต่ความเร็วของสายถึกในเกมนี้ก็คงถือว่าช้าเกินไปอยู่ดี ส่วนอีกคลาส คือ Assassin เพราะคงอิงจากชีวิตจริงที่ว่า “พวกโจรหรือนักฆ่าเป็นคนไม่ดี” ถ้าเป็นหนังจีนก็คงอยู่ฝ่ายคนดีหรือฝ่ายธรรมะไว้ก่อนอะไรประมาณนี้

ใหญ่ขนาดนี้ผมรับไม่ไหวจริงๆนะเนี่ย!!

ส่วนเกม Fighting คาแรคเตอร์ที่ผมเลือกมักจะเป็นสไตล์ Martial Arts ของแท้อย่าง Ryu กับ Ken หรือตระกูลมิชิมะทั้งหลายที่เป็นคาราเต้ ซึ่งมีความแรงและความเร็วในระดับปานกลาง และไม่ได้มีลูกเล่นพราวแพรวมากนัก หรือถ้าใช้อาวุธด้วยก็เป็นอาวุธขนาดกลางอย่างดาบญี่ปุ่น เช่น Master Raven (Tekken 7) แต่ที่ไม่ชอบสักเท่าไหร่คือคาแรคเตอร์ที่โจมตีระยะไกลได้ และใช้ท่าโจมตีไกลตลอดเราไม่ให้เข้าใกล้อยู่ตลอดเวลา เพราะดูแล้วไม่แฟร์สำหรับการต่อสู้ในเกมแนว Fighting ที่ควรเข้ามาปะทะกันใกล้ๆสักเท่าไหร่

2.2 อาวุธ

เรื่องอาวุธที่คาแรคเตอร์ใช้งานก็มีผลกับการหยิบคาแรคเตอร์มาเล่น อย่างที่ผมพูดไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าผมชอบแนวอัศวิน นักบวช กับนักเวทย์ ดังนั้นพื้นฐานของผม คือ “ไม่ชอบอาวุธขนาดใหญ่โตเทอะทะ” เช่น ค้อนยักษ์ ขวานยักษ์ กระบองยักษ์ หรือลูกตุ้มยักษ์ เพราะส่วนตัวคิดว่าอาวุธชิ้นเล็กก็ทำดาเมจแรงได้ บวกความเร็วมีมากกว่าเผลอๆอาจจะทำดาเมจได้ดีกว่าก็ได้ แต่อาวุธใหญ่ๆพวกนี้มักจะพลังโจมตีสูง แถมยังข่มขวัญศัตรูได้เสมอ คนเราเวลาเจออะไรใหญ่กว่าตัวเองเข้ามาก็ย่อมรู้สึกกลัวเป็นธรรมดา ตรงนี้ขอยืนยันว่ามีผลจริงๆครับ

ตัวก็ใหญ่ ค้อนก็ใหญ่ โคตรน่ากลัวเลยรู้มั้ยเนี่ย!!

อีกด้านหนึ่งผมก็ไม่เลือกอาวุธที่ใช้ในระยะไกลๆ เช่น ปืน ธนู และหน้าไม้สักเท่าไหร่ด้วย อย่างใน Overwatch ผมไม่ค่อยจะหยิบตัวละครที่ใช้ปืนสักเท่าไหร่นัก (ทั้งที่เล่นเกม FPS เนี่ยนะ!?) คงเป็นเพราะตัวเองชอบการโจมตีระยะประชิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเกมนี้ก็มีคาแรคเตอร์ที่ตอบโจทย์ผมอย่าง Genji และ Reinhardt หรือฉีกเป็นสายสนับสนุนฮีลเต็มตัวแบบ Mercy ไปเลย ส่วนเกม Fighting ไม่ค่อยมีปัญหาตรงนี้ เพราะไม่ใช่แนวเกมที่จะคาแรคเตอร์จะถืออาวุธอยู่แล้ว

ถึงจะเป็นเกม FPS แต่ไม่มีปืนก็ไม่มีปัญหา​​​!!

2.3 สกิล / ท่าไม้ตาย

เวลาเราจะเลือกคาแรคเตอร์อะไรสักอย่างมาเล่น ผมว่าเรื่องสกิลหรือท่าไม้ตายเป็นสิ่งที่ให้ผมตัดสินใจเล่นคาแรคเตอร์บางตัวได้ทันทีเหมือนกัน เอาเป็นว่าผมจะลองเลือกสกิลหรือท่าไม้ตายที่ผมชอบมาให้ดูกันดีกว่า

ดาวตก / อุกกาบาต

ส่วนตัวผมจะชอบธาตุไฟและจะชอบมากขึ้นถ้าไฟพวกนี้มาในรูปแบบ ดาวตก อุกกาบาต หรือ มีวัตถุหล่นมาจากท้องฟ้า ยกตัวอย่าง 3 เวทย์ใหญ่ของ Wizard ใน Ragnarok ผมคิดว่าส่วนใหญ่คงเทไปให้เวทย์พายุหิมะอย่าง Storm Gust ที่ทั้งแรงและมีประโยชน์หลายอย่าง แต่สำหรับผมแล้วผมชอบเวทย์อุกกาบาตอย่าง Meteor Storm มากกว่า

Meteor Storm

แสง / ศักดิ์สิทธิ์ / ไม้กางเขน 

นอกจากธาตุไฟแล้ว ธาตุแสงและธาตุศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นธาตุที่ผมชอบ เพราะส่วนตัวผมชอบคอนเซ็ปท์แบบเทพเทวดาหรือสรวงสวรรค์อะไรพวกนี้อยู่แล้ว นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมชอบคลาสอัศวินและนักบวชนั่นเอง คาแรคเตอร์และสกิลถ้าเป็นในแนวนี้จะถูกใจผมเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น Magnus Exorcismus และ Turn Undead ของ Priest (Ragnarok)

Magnus Exorcismus

นอกจากนี้ผมยังชอบ “รูปกากบาท” หรือ “ไม้กางเขน” เป็นพิเศษ ซึ่งหลายเกมก็มาคู่กับคลาสอัศวินอย่างท่าดาบกากบาท Cross Cut (Dragonica) หรือเวทย์ธาตุศักดิ์สิทธิ์ Grand Cross (Ragnarok) เป็นต้น

Grand Cross

ท่าโจมตีแบบ One Hit Kill

อีกหนึ่งรูปแบบท่าโจมตีที่ผมชอบ คือ “ตีครั้งเดียวตาย” (หรือแทบปางตาย) ผมว่าท่าพวกนี้มันเรียบง่ายแต่ประสิทธิภาพสูง ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น Extremity Fist หรือ Asura Strike (Ragnarok) ท่ามังกรบินในตำนานอย่าง Shoryuken (Street Fighter) และมังกรบินฉบับ Devil May Cry อย่าง Real Impact จากอาวุธ Beowulf (ภาค 3) และ Gilgamesh (ภาค 4) นั่นเอง

Extremity Fist หรือ Asura Strike
หมัดมังกรบิน Shoryuken

ดาบญี่ปุ่น

ผมเป็นคนที่ชอบพวก “นินจา” และ “ซามูไร” เป็นพิเศษ ดังนั้นหากในเกมจะมีดาบญี่ปุ่นโอกาสที่ผมจะชอบคาแรคเตอร์ตัวนั้นก็มีสูง ซึ่งในเกมก็มีท่าต่อสู้ที่ใช้ดาบญี่ปุ่นหรือฟันดาบสไตล์ญี่ปุ่นอยู่มาก เช่น Dragonblade ของ Genji (Overwatch), Judgement Cut End ของ Vergil ใน Devil May Cry 4 : Special Edition และ Ragnarok ของ Strider Hiryu ในเกม Marvel VS Capcom

Dragonblade
Ragnarok

หมัดรัว

ผมชอบคาแรคเตอร์ที่ใช้ท่ารัวแบบถี่ยิบมากครับ ผมรู้สึกว่าเป็นท่าโจมตีที่เท่และดูรุนแรงสำหรับผม (แต่นับเป็น Hit แล้วเบามาก) คิดว่าได้รับอิทธิพลจาก “หมัดรัว” ในการ์ตูนตำนานอย่าง JoJo นี่แหละ ถึงในเรื่องนี้ถึงจะเป็นเพียงท่าโจมตีทั่วไป แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ต่างอะไรกับท่าไม้ตาย เลยสักนิด ดังนั้นทำให้ผมชอบคาแรคเตอร์ที่มีท่าหมัดรัวเป็นพิเศษ เช่น Long (Bloody Roar) และ Jin (Tekken 7)

JoJo’s Bizarre Adventure

ทั้งหมดนี้ผมพูดได้ว่านี่เป็นเพียงมาตรฐานการเลือกคาแรคเตอร์จากความชอบส่วนตัวของผมเท่านั้น ผมเชื่อหลายคนอาจจะชอบคาแรคเตอร์ที่ตรงข้ามกับผมทุกอย่างเลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ ผมมองว่า “เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่จะมองไม่เหมือนกัน” ไม่อย่างนั้นเกมจะสร้างคาแรคเตอร์ออกมาเยอะแยะทำไมให้เสียเวลา อีกอย่างคาแรคเตอร์หลากหลายแบบก็สร้างสีสันให้เกมสนุกมากขึ้นด้วยครับ

แล้วทุกคนตัดสินใจยังไงบ้าง…เวลาจะหยิบคาแรคเตอร์สักตัวขึ้นมาเล่น ?
Facebook Comments