ว่าแต่ Game Content Creator คืออะไร? ถ้าแปลตรงตัวก็คือ “ผู้ผลิตเนื้อหาเกี่ยวกับเกม” ซึ่งในไทยเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากความต้องการของคนดู และนี่เองที่เป็นเหตุให้หลายคนประสบความสำเร็จถึงขั้นเลี้ยงชีพได้ (ที่มีชื่อในไทยก็อย่างเช่น Mr. HEARTROCKER, zbing z. หรือต่างชาติอย่างเช่น Pewdiepie หรือ Markiplier เป็นต้น)
ถ้าคุณสนใจในการเป็น Game Content Creator ไม่ว่าจะทำแบบมือโปรหรือแค่อยาก Stream ให้เพื่อนดู, ทำคลิป Gameplay สุดเจ๋งไว้อวดคนกันเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงเพราะตอนนี้มีแค่ใจรักในการเล่นเกม และความ Creative ล้วนๆ หัวข้อนี้ตอบโจทย์ให้แล้ว เพราะเราจะมาพูดถึงการ Setup ต่างๆ และอุปกรณ์ที่จำเป็นกัน
เพื่อความสะดวกในการเสพของทุกคนเราจะแบ่งออกเป็นตอนๆ ได้แก่
1. ตอน Social Media (ตอนนี้)
2. ตอน โปรแกรมสำหรับ Streaming/Recording
โดยเราขอไม่พูดเกี่ยวกับสเปคคอมที่ต้องใช้นะครับ เพราะถ้าคุณ Stream เกม Minesweeper คุณก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้คอมเทพ ส่วนเรื่องของความเร็วเน็ตก็ขึ้นอยู่ที่ความละเอียดและเฟรมเรตของวิดีโอ (720p ที่ 60fps ต้องการความเร็วการ Upload ประมาณ 3 – 5 Mbps)
ทั้งนี้ทั้งนั้นโปรแกรมอัดวีดีโอหรือ Stream มีสเปคที่แนะนำที่ต้องใช้คือ:
CPU: Intel Core i5-4670 or AMD Equivalent
MEMORY: 8GB DDR3 SDRAM
OS: Windows 7 Home Premium
เอาล่ะเรามาเข้าสู่เนื้อหาของตอนนี้กันดีกว่า
Social Media ที่จะใช้
นับเป็นอย่างแรกเลยที่เราจะต้องทำกันก่อน นั่นก็คือการสมัคร / สร้าง Account บนเว็บต่างๆ ที่จะใช้ โดยมี 3 ช่องทางหลักที่อยากนำเสนอได้แก่ Youtube, Twitch และ Facebook ซึ่งแต่ละช่องทางก็จะมีความแตกต่างกันออกไป
1. Youtube
ทุกคนคงคุ้นเคยกับ Youtube เป็นอย่างดี มันเป็นแหล่งรวมของวิดีโอทุกอย่างตั้งแต่คนบีบสิวยันการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพอมาถึงเรื่องเกม ทาง Youtube ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเหล่าเกมเมอร์ จึงได้มี Section แยกออกมาเพื่อเกมโดยเฉพาะ เรียกว่า “Youtube Gaming” ซึ่งช่วยให้การ Search หาเกมที่เราต้องการนั้นง่ายขึ้น
ถ้าจะให้พูดง่ายๆ Youtube ก็เป็นเสมือนคลังเก็บวิดีโอของเรา เหมาะสำหรับคนที่ชอบอัดวิดีโอเก็บไว้และแชร์จาก Youtube
แต่ในส่วนของการ Steaming นั้นผมรู้สึกว่า Youtube ยังด้อยกว่า Twitch มากถึงแม้จะเริ่มมีการเพิ่ม feature อย่างเช่น Superchat มา
2. Twitch
ช่องทางนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเกมโดยเฉพาะ โดยจะเน้นเรื่องของการ Streaming เป็นหลัก ใครที่อยากจะถ่ายทอดสดขณะตัวเองเล่นเกม ช่องทางนี้ควรเป็นหนึ่งในตัวเลือก
ข้อดีของ Twitch คงเป็นเรื่องของการได้โต้ตอบกับคนดูในระบบ Chat และมีระบบ Subscribe ที่ได้ผลตอบแทนดีกว่า Youtube
3. Facebook
Facebook เป็น Social Media ที่คนไทยใช้เยอะที่สุด จะ Live หรือจะลงวิดีโอก็ได้ แต่ข้อเสียคือไม่ได้มี Feature รองรับเท่า 2 ข้อด้านบน
สรุป
ก่อนอื่นเราอาจจะต้องดูว่าเนื้อหาของวิดีโอที่เราผลิตออกมามันเหมาะกับช่องทางไหนมากที่สุด ถ้าจะให้พูดการมี Channel บน Youtube เป็นเหมือน “หน้าตา” ของเรา คน Search หาก็จะเจอเรา แต่ Twitch เป็น Platform ที่เราสามารถสื่อสารกับคนดูได้และถ้า Content ของเราส่วนใหญ่เป็น “Let’s Play” Twitch ก็อาจจะเหมาะกว่า ซึ่งแปลว่าเราสามารถใช้ได้หลาย Platform ได้แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ควรจะเลือกอันใดอันหนึ่งเป็นหลัก
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องศึกษากันสักนิดก็คือเรื่องของ “Monetization” หรือการสร้างรายได้ เพราะแต่ละช่องทางแตกต่างกันออกไป โดย Youtube และ Twitch มีระบบรองรับการสร้างรายได้ (Twitch ได้จาก Subscriber และ Youtube ได้จากโฆษณา) ส่วน Facebook ยังไม่มีระบบนี้ แต่เป็นเหมือนที่ที่ให้คนค้นพบเราเพื่อสร้างฐานผู้ติดตามของเรามากกว่า แต่ถึงกระนั้น เรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผมจึงไม่อยากลงรายละเอียดในบทความนี้
จบลงไปแล้วสำหรับหัวข้อนี้ เพื่อนๆ คนไหนที่เข้าสู่สถานะเซียนแล้วก็อย่าลืมแบ่งปันความรู้กันบ้างนะครับ ส่วนครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องของ โปรแกรมสำหรับ Streaming/Recording สำหรับใครที่สนใจก็รอติดตามกันได้เลย
