[REVIEW] BATTLETECH มหากาฬสงครามหุ่นเหล็ก ศึกชิงบัลลังก์ข้ามกาแล๊กซี่

ช่วงนี้ก็เป็นอีกช่วงหนึ่งของปีที่สาวกเกม STRATEGY อย่างผมมีความสุขมากเพราะมีเกมวางแผนดีๆตั้งแต่ไซส์อินดี้ไปจนถึงระดับ AAA ออกมาให้เลือกเล่นอยู่หลายเกม หนึ่งในนั้นก็คือเกม BATTLETECH ที่พัฒนาโดย HAREBRAINED SCHEMES โดยมีต้นตำหรับมาจากเกม TABLETOP ชื่อดังมีแฟนๆเหนียวแน่นมากมาย ไม่แพ้เกมกระดานอย่าง WARHAMMER หรือ SID MEIER เลย แถมยังได้ PARADOX INTERACTIVE เจ้าของผลงานเกมสงครามอย่าง HEART OF IRON กับ CRUSADER KING มาเป็นผู้จำหน่าย เรียกว่าเป็นงานช้างทีเดียวสำหรับ HAREBRAINED ว่าจะทำเกมได้สมกับความคาดหวังของเกมเมอร์สายบุ๋นหรือไม่ หลังจากที่ผมเล่นเกมนี้มาได้สักพักแล้วจะมาพูดถึงประสบการณ์ของเกมนี้กันครับ

PLOT

พล๊อตเรื่องเกม BATTLETECH จะอ้างอิงมาจากเกม SCIFI TABLETOP โดยให้เราสวมบทบาทเป็น MECHWARRIOR นักสู้ที่บังคับหุ่นเหล็ก BATTLEMECH ในโลกอนาคตที่เทคโนโลยีอวกาศก้าวล้ำจนมนุษยชาติสามารถเดินทางไปปักหลักถิ่นฐานได้ทั่วกาแล๊กซี่ แต่ก็ยังไม่ทิ้งสันดานเดิม จับตัวแบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นฝ่ายๆทำสงครามแย่งชิงดินแดนกันมาเป็นศตวรรษ ในเกม BATTLETECH นี้จะพูดถึงเนื้อเรื่องของอาณาจักร AURIGAN COALITION ที่ปกครองพื้นที่ส่วนหนึ่งของกาแล๊กซี่นำโดยราชวงศ์ AURANO

เราซึ่งรับบทเป็นทหารรับจ้าง ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดของ KAMEA AURANO ราชกุมารีแห่งอาณาจักร AURIGAN ที่กำลังจะขึ้นครองราชย์เป็นราชินีผู้ปกครององค์ใหม่ แต่ระหว่างทางไปงานพิธีราชาภิเษก กลับถูกเหล่ากบฎยึดอำนาจเสียก่อน KAMEA ถูกฆ่าตายระหว่างหลบหนีออกนอกชั้นบรรยากาศ ส่วนเราที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด ก็ได้รับความช่วยเหลือจากทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่งซึ่งภายหลังเราก็จัดพลัดจับพลูกลายมาเป็นผู้บัญชาการกองทหารรับจ้างเล็กๆนี้ ทำงานจับฉ่ายตามที่ลูกค้าขอ ระหว่างที่ไฟสงครามของฝ่ายกบฎที่ยึดอำนาจปกครอง AURIGAN COALITION ในชื่อใหม่ AURIGAN DIRECTORATE ก็กำลังคลืบคลานปกคลุมกาแล๊กซี่ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งนี้..

GAMEPLAY

เลือกอาวุธให้ใช่ ยิงให้ถูกเวลา คือกุญแจเอาตัวรอดของเกมนี้

เกมเพลย์หลักของ BATTLETECH คือ TURN-BASED STRATEGY คล้ายเกมอย่าง XCOM หรือ FIRE EMBLEM ที่เราจะบังคับหุ่นเหล็ก BATTLEMECH ในการต่อสู้กับศัตรูเป็นหลัก หุ่นเหล็กในเกมนั้นจะมีหลายขนาดหลายยี่ห้อ และสามารถปรับแต่งติดอาวุธประเภทต่างๆได้หลายชนิด ที่ก็มีความสามารถจุดดีจุดด้อยแตกต่างกันไป ขึ้นกับสไตล์การเล่นของแต่ละผู้เล่นที่ชอบแบบไหน นอกจากนั้นเมื่อเราพูดถึงหุ่นก็ต้องมีคนขับหรือก็คือ MECHWARRIOR ที่ก็มีความสามารถเหมาะกับหุ่นต่างชนิดกัน และจะเติบโตเก่งขึ้นเรื่อยๆตามประสบการณ์ในสนามรบ ตัวผู้เล่นเองก็สามารถสร้างตัวละครที่เป็น AVATAR ในเกมมาเพื่อบังคับหุ่นได้ด้วย ทั้งนี้เกมมีระบบ PERMADEATH ที่ตัวละคร MECHWARRIOR(นอกเหนือจากตัว AVATAR ผู้เล่น) หากได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วตายระหว่างออกรบก็คือจะตายไปเลย ไปมีชุบชีวิตแต่อย่างใด ยิ่งถ้าเสีย MECHWARRIOR ที่เก่งๆไปนี่แทบจะไปไม่เป็นวางแผนกันต่อไม่ถูกเลย

หุ่นรบมีหลายแบบ และโมฯอาวุธติดตั้งได้ไม่เหมือนกัน

นอกเหนือจากเกมเพลย์ TURN-BASED แล้วนอกการรบเราก็ต้องรับบทเป็นผู้บัญชาการกองทหารรับจ้างที่ต้อง “ดูแลกิจการทุกอย่าง” ตั้งแต่การจัดหางาน(CONTRACTS) ที่มีความยากง่ายและรายละเอียดของภารกิจไม่เหมือนกัน โดยแต่ละครั้งที่เรารับงานมาสามารถเลือกได้ว่าจะแบ่งรางวัลสำเร็จภารกิจในรูปแบบของเงิน(C-BILL) หรือชิ้นส่วนหุ่นเหล็ก(SALVAGE) ที่สามารถนำมาประกอบเป็นหุ่นเหล็กตัวใหม่หรือมาติดอาวุธใหม่ได้ผ่าน MECHBAY หรือโรงประกอบหุ่นที่ให้เราจับปรับแต่ง ซ่อมหุ่นเหล็กประจำทีมของเรา

หลังจากแต่งหุ่นจนจุใจแล้วก็ถึงเวลาหางานทำผ่าน STARMAP NAVIGATION เราได้ชื่อเป็นทหารรับจ้างฉะนั้นเราจึงไม่อยู่กับที่ กาแล๊กซี่ใน BATTLETACH เต็มไปด้วยดวงดาวหลายดวง หลายระบบสุริยะที่ก็มีงานหลากหลายในราคาสูงต่ำไม่เท่ากัน และก็ทำงานให้กับฝ่าย(FACTIONS) ที่ต่างกัน การที่เราเลือกทำงานให้กับข้างใดข้างหนึ่งนานๆก็จะทำให้เราได้รับความนับถือ(REPUTATIONS) ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆหรือโบนัสเงินเพิ่ม แลกกับโดยอีกฝ่ายที่เราขัดแข้งขาเกลียดหน้า ไปทำงานด้วยยากขึ้น นี่ยังไม่นับเรื่องการควบคุมการไหลเข้าออกของรายรับ-รายจ่ายในกลุ่มที่หากเงินหมดเมื่อไรก็หมายถึงกองทหารเราล้มละลายและ GAME OVER ในทันที ขอบอกก่อนเลยครับว่าทำงานกับตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต เก็บเงินใช้หนี้บานปลาย ไม่มีเวลานั่งๆนานๆจิบชาจิบกาแฟดูซีรี่ย์แน่นอน

แผนที่กาแล๊คซี่ที่เราสามารถเดินตะลอนรับงานจ้างได้

นอกจาก MODE SINGLEPLAYER แล้วตัวเกมยังมีโหมด MULTIPLAYER ที่ให้เราสามารถสู้กับผู้เล่นออนไลน์คนอื่นๆ ผ่านการจัดทีมหุ่นมาสู้กันได้ด้วย โดยที่จะจัดโหดกันแค่ไหนก็ขึ้นกับว่าเรากับผู้ท้าชิงกำหนด C-Bill ให้มากหรือน้อยขนาดไหน ส่วนตัวผู้เขียนได้ลองเล่นโหมดนี้อยู่สักสองสามรอบ ปรากฎว่าเจอกับความท้าทายแบบใหม่ที่เล่น CAMPAIGN ปกติไม่เจอ นั่นคือ “แทคทิคแบบมนุษย์” เพราะคู่ต่อสู้คือคนด้วยกันเองไม่ใช่คอมพิวเตอร์ แต่เป็นผู้เล่นด้วยกันเอง ดังนั้นหลายต่อหลายจังหวะผมจึงเห็นกลยุทธ์ที่ทำให้อู้หูด้วยความชื่นชมต่อความครีเอทีพ เช่น ครั้งหนึ่งคู่ต่อสู้ล่อผมเข้าไปในหุบเขาก่อนที่จะเอาหุ่นเหล็กไซส์ HEAVY ที่ติดจรวดมิสไซด์เต็มที่เข้าข้างหลังตอนไหนก็ไม่รู้ ก่อนจะยิงซัลโวเกือบ 40+ ลูกใส่หุ่นหลักผมเต็มที่ เล่นแทบเอาผมกัดฟันลุ้นให้หุ่นผมไม่บึ้มไปซะก่อน(แต่สุดท้ายก็แพ้อยู่ดี ฮา)

MICRO-MANAGEMENT

สำหรับคนที่เล่นเกมแนว STRATEGY มาก่อนโดยเฉพาะเกมอย่าง CIV หรือ TOTAL WAR แล้วน่าจะคุ้นชินกับการดูแลตรงโน้น คุมตรงนี้ นู่นนิดนี่หน่อยเป็นอย่างดี และเกม BATTLETECH นี้ก็เช่นกันครับ เกมเปิดโอกาสให้เราคุมทุกอย่าง ตัดสินใจด้วยตัวของเราเอง ตั้งแต่ระบบการบริหารองค์กรที่ยิบย่อยตั้งแต่จ่ายเงินเดือนยันไปถึงค่าน้ำมัน ในการสู้รบเราก็จะมีการเลือกหุ่นที่จะลง MECHWARRIOR ที่จะขับหุ่นนั้น ไปจนถึงการเลือกว่าในเทิร์นนั้นๆ หุ่นตัวนั้นจะเลือกยิงอาวุธไหน ไม่ยิงอาวุธไหนหรือการเลือกใช้ SKILL เพื่อเลือกยิง PARTS ของหุ่นเหล็กศัตรูที่มีตั้งแต่ส่วนหัว, แขน, ขา, สีข้าง, ไปจนถึงแกนกลาง(CENTER TORSO) ที่หุ่นแต่ละตัวก็มีติดอาวุธต่างจุดกันไป การมองหาจุดอ่อนของศัตรูเพื่อตัดทางต่อกรกับเรา รวมไปจนถึงเทคนิคการตีขนาบหรือ FLANKING ก็อยู่ภายใต้การตัดสินใจของเราทั้งหมดครับ คนที่พึ่งเล่นเกมแนวนี้เป็นครั้งแรกอาจรู้สึกว่ามันหนักและละเอียดไปหน่อย แต่นี่คือเหตุผลที่ทำให้เกมนี้สนุก มีความลึกและเล่นได้ไม่เบื่อเลยครับ

DIFFICULTY

การโดนหมาหมู่คือสิ่งที่คุณจะได้เจอในเกมนี้

อย่างที่บอกไปแล้วว่าความยากของเกมไม่ได้อยู่ที่การสู้ในสนามรบอย่างเดียว แต่เกี่ยวกับการดูแลทรัพยากร และการบริหารองค์กรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นความยากของเกมช่วงเริ่มต้นนั้นถือว่าค่อนข้างสูงในระดับใกล้ๆกับเกมอย่าง XCOM หรือ CIV ในระดับความยากสูงๆเลย เพราะทุกอย่างมันประดังเข้ามาจนการพลาดในสนามรบหรือการบริหารแม้แต่นิดเดียวอาจหมายถึง GAME OVER ได้เลย แต่หากผ่านช่วงนั้นมาได้ ก็จะค่อนข้างมีที่ให้หายใจกันมากขึ้นครับ แต่ก็ยังยากอยู่ดี ฉะนั้นเตรียมใจไว้ให้ดีครับ เพราะเกมนี้ไม่ปราณีให้กับคนที่คิดจะเล่นชิวๆกดๆยิงๆไปวันๆแน่นอน

ATMOSPHERE

กาแล๊กซี่ในเกม BATTLETECH นั้นเต็มไปด้วยระบบสุริยะที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่ดาวหนาวน้ำแข็งเกาะ ไปจนถึงดาวแห้งเป็นทะเลทราย, ลาวาเดือดปุดๆ จนถึงดาวสีฟ้าเหมือนดาวโลก ที่ถูก RENDER ออกมาได้สวยทีเดียว แถมดีไซน์หุ่นเหล็กและยานอวกาศทั้งหลายในเกมก็ออกได้ดูมีความเป็นหนัง SCI-FI แนวเรียลดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้บรรยากาศของดาวแต่ละดวงยังมีมากกว่าเป็นแค่แบ๊คกราวเพราะบรรยากาศในดาวก็มีผลต่อการสู้รบเช่นกัน ดาวที่อุณหภูมิต่ำจะช่วยให้หุ่นเราไม่ร้อนจนเป็นเตาไมโครเวฟเคลื่อนที่ ขณะที่ดาวที่ร้อนหูดับตับไหม้ก็แทบไม่ต้องจะสู้กัน อยู่เฉยๆก็แทบจะเป็นแดดเดียวกันทั้งฝ่ายเราฝ่ายศัตรู หรือดาวไร้บรรยากาศที่ช่วยให้หุ่นยนต์เบาขึ้น เคลื่อนไหวได้ไกลขึ้น ซึ่งเราก็ต้องวางแผนให้ดีๆก่อนที่เราจะรับงาน ว่าหุ่นเหล็กของเรานั้น ปรับแต่งให้เหมาะกับการต่อสู้ในสภาวะแบบไหน

GRAPHICS

ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อเลยฉากจอดยานอวกาศ

พูดกันตรงๆเกม TURN-BASED ส่วนตัวผมไม่คิดมากเรื่องกราฟฟิคเพราะเกมเพลย์นั้นผมเห็นว่าสำคัญกว่า หากกราฟฟิคดีก็ถือว่าเป็นโบนัสไป แถมส่วนใหญ่เวลาเล่นเกมแนวนี้ผมก็มักปรับ GRAPHICS ให้อยู่กลางๆเพื่อให้ประมวลผลไวขึ้นด้วย BATTLETECH อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าทำบรรยากาศอะไรออกมาได้ดี อาจจะมีติดว่าตัวหุ่นหรืออนิเมชั่นการเคลื่อนไหวอาจจะดูก้องแก๊งบ้างแต่ก็ไม่มีผลอะไรกับเกมเพลย์ ทั้งนี้การเล่าเรื่องคัตซีนในเกมจะเป็นรูปแบบของภาค ARTWORK ที่ผมรู้สึกว่าเป็นอะไรที่สวยงามและช่วยบิ้วอารมณ์ให้เรารู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่องในเกมได้เป็นอย่างดีครับ

REPLAYABILITY

ด้วยความที่ BATTLETECH มีรูปแบบการเล่นให้เราสามารถเลือกทำภารกิจได้เรื่อยๆโดยที่ไม่จำเป็นต้องรีบทำภารกิจเนื้อเรื่องหลัก ดังนั้นเราสามารถไปเล่นตามใจฉัน เก็บหุ่นเก็บเงิน นานเท่าไรก็ได้ ซึ่ง ณ ตอนที่ผมเขียนรีวิวนี้ได้เล่นเกมไปเกือบจะ 50+ ชั่วโมงแล้ว ยังรู้สึกเลยว่าเนื้อเรื่องหลักยังไปไม่ถึงไหน มัวแต่สนุกกับการผจญภัยอวกาศที่คล้ายๆกับ SANDBOX นี้ ดังนั้นระยะเวลาการเล่นจึงไม่ต้องเป็นกังวลกัน ได้เล่นกันเป็นร้อยเป็นพันชั่วโมงแน่นอน

CONCLUSION

BATTLETECH คือเกม TURN-BASED ที่ทำได้สมความคาดหวังของแฟนเกมแนววางแผนการรบ และแฟนเกม TABLETOP ต้นตำหรับ ระบบเกมที่ออกแบบมาได้ดี เนื้อเรื่องที่ดัดแปลงมาจากต้นฉบับแต่ก็ยังคงสเน่ห์ของซีรี่ย์ไว้อย่างครบถ้วน แม้ตัวเกมจะมีข้อด้อยที่กราฟฟิคอาจเทียบกับเกม ACTION ระดับ AAA บางเกมไม่ได้ และบัคนิดๆหน่อยๆที่พบเจอระหว่างการเล่น แต่สำหรับตอนนี้ BATTLETECH คือเกมที่ผมเล่นได้สนุกติดลมบนที่สุด นี่คืออีกหนึ่งเกมที่ผมแนะนำให้แฟนเกม TURN-BASED ทุกคนต้องหามาลองเล่น หรือแม้จะไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน หากคุณเรียนรู้จนเข้าใจระบบต่างๆในเกมแล้วละก็ เชื่อครับว่าคุณก็จะสนุกไปกับเกมหุ่นเหล็กนักสู้นี้ไม่ยาก

Facebook Comments