ก่อนที่จะลงรายละเอียดของรีวิวนี้ สิ่งที่ต้องรู้ไว้ก่อนสำหรับเกมนี้ คือ Tekken 7 เคยบนเกมตู้มาแล้วตั้งแต่ปี 2016 ส่วนตอนที่ประกาศลงคอนโซลกับ PC ทาง Bandai Namco ได้ใช้ชื่อว่า Tekken 7: Fated Retribution พร้อมคอนเทนท์ใหม่ๆ แต่ไม่นานก็ตัดสินใจตัดคำว่า “Fated Retribution” ออกไปจนเหลือแค่ Tekken 7 เฉยๆเหมือนกับตอนลงเกมตู้
อย่างไรก็ตามแฟนเกม Tekken ก็รอภาค 7 นี้กันอยู่นานมากเพราะถือเป็นภาคแรกที่ออกมาบนแพลตฟอร์มของยุคนี้ (Tekken 6 ออกบน PS3 และ XBox 360 เมื่อปี 2007)
เนื้อเรื่อง (9/10)
Tekken ถือเป็นเกม Fighting ที่เนื้อเรื่องมีเสน่ห์มากเกมหนึ่ง โดยภาคนี้ให้ความสำคัญกับเนื้อเรื่องเป็นพิเศษด้วย เพราะช่วงหนึ่งเป็นการย้อนอดีตไปตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนภาคแรก ซึ่งมีการเล่าถึงสาเหตุการแตกแยกของครอบครัวมิชิมะ โดยมี Kazumi ภรรยาของ Heihachi เป็นกุญแจสำคัญ ทั้งหมดได้ส่งผลมาถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันโดยเฉพาะการปรากฎตัวของ Akuma จาก Street Fighter รวมไปถึงการตัดสินความแค้นที่ยืดเยื้อมานานระหว่างรุ่นพ่อ Heihachi กับรุ่นลูก Kazuya อีกด้วย (ส่วน Jin ที่เป็นรุ่นหลานไม่มีบทบาทในภาคนี้มากนัก)
อย่างที่พูดไปตอนแรกว่าเกมยังคงเก็บเสน่ห์ของการเล่าเรื่องในเกมนี้ไว้ได้ดี และดำเนินเนื้อเรื่องหลักไว้ใน “Mishima Saga” ซึ่งเป็นโหมด Story ที่ดูจริงจังกว่าทุกภาค เพราะภาคนี้ทุ่มให้กับเรื่องราวของตระกูลมิชิมะแทบทั้งหมด มีแบ่งเนื้อเรื่องเป็น Chapter ระหว่างเข้าโหมดต่อสู้เกมกับ Cinematic จะเชื่อมต่อกันแบบไม่ตัดฉาก การต่อสู้ก็จะเป็นไปตามเนื้อเรื่องโดยไม่สามารถเลือกตัวละครได้ ส่วนที่แตกต่างจากภาคก่อนๆ เช่น มีการต่อสู้กับลิ่วล้อเป็นระยะๆ (เหมือน Tekken Force ในภาค 3 และ 4) และมีบทสนทนาระหว่างต่อสู้บ้างเล็กน้อยพอเป็นสีสัน ส่วนเวลาเล่นก็นานร่วม 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ส่วนตัวมองว่าเป็นโหมด Story ใน Tekken 7 ทำได้ดี เพราะอารมณ์ในการชมเนื้อเรื่องมีความต่อเนื่องสูง ไม่ใช่เล่าเรื่องแล้วตัดเข้าโหมดต่อสู้ พอสู้จบก็ตัดซีนเข้าซีนเล่าเรื่องต่อแบบเดิมๆ และการดึงความลับของจุดแตกหักในตระกูลมิชิมะมาคลายข้อสงสัยก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีให้แฟนเกมเข้ามาสัมผัสเกมนี้ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Tekken 7 ให้ความสำคัญกับโหมด Story จริงๆ
เกมเพลย์ (8/10)
สไตล์การต่อสู้ก็ยังคงความเป็น Tekken ที่คุ้นเคยกันดี ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ ระบบ Rage Art ท่าไม้ตายประจำตัว จะใช้ได้เมื่อเลือดเหลือน้อยแล้ว (ใช้ได้ครั้งเดียว เลือดยิ่งน้อยพลังยิ่งแรง) และ Rage Drive ที่เป็นท่าโจมตีพิเศษเพิ่มเข้ามา (เหมือน Revenge Gauge ใน Street Fighter) ทั้งสองอย่างนี้น่าจะสร้างมาเพื่อให้เกมพลิกล็อคได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้เล่นต้องกระตือรือร้นคอยหาจังหวะทำคอมโบให้ต่อเนื่องเพื่อปิดเกมโดยเร็วที่สุด
ส่วน Akuma เชื่อว่าหลายคนคงขัดใจกับการควบคุมหากไม่เคยเล่นเจ้านี่มาก่อน เพราะระบบต่อสู้และวิธีควบคุมคล้ายกับ Street Fighter อย่างเช่นเกจพลังสีฟ้าด้านล่างจอมีเพียงเขาเท่านั้นที่มี หรือปุ่มคำสั่งต่างๆก็ใกล้เคียงกัน
สำหรับโหมดออนไลน์นั้นเราสามารถเข้าไปวัดฝีมือกับผู้เล่นอื่นทั่วโลกได้ทั้งแบบไม่จัดอันดับ (Player Match) และจัดอันดับกับคนทั่วโลก (Rank Match) มีให้เล่นตั้งแต่ดวลแบบเร่งรัดอย่าง Quick Match จนไปถึงแข่งยาวเป็น Tounament แต่ขอติ 2 อย่างสำหรับโหมดนี้ อย่างแรกคือการซ้อมมือระหว่างเสิร์ชรอจับคู่ต่อสู้ CPU น่าจะเคลื่อนไหวได้ตามปกติไปเลย หรือจะปรับออปชั่นได้เหมือนในโหมด Practice ไปเลยก็ดี อีกอย่างคือ เสิร์ชหาคู่ต่อสู้แล้วล้มเหลวค่อนข้างบ่อย จนบางครั้งต้องซ้อม CPU แก้เซ็งอยู่นานเลยทีเดียว
นอกจากนี้ใครเป็นคอแฟชั่นเกมนี้ก็มี Customisation ให้เราเข้าไปแต่งองค์ทรงเครื่องได้ตามใจชอบด้วยเงินในเกม Fight Money ส่วนเครื่องแต่งกายมีตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมตามปกติ รวมไปถึงอุปกรณ์บ้าบอคอแตกต่างๆตั้งแต่ซากกระเบือยันเรือรบให้เลือกสรร ทั้งพิซซ่า โต๊ะ เก้าอี้ กระทะ ไม้เทนนิส ฯลฯ เอาเป็นว่าใครจะหลุดโลกแค่ไหนก็ตามสบายเลยครับ
นอกจากภาคนี้ยังมี “โหมด VR” ให้เล่นด้วย แต่คิดว่ายังไม่เวิร์ค ยังอดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นการ “โยนหินถามทาง” ก่อนหรือยังไง ใครรู้จักเกมจีบหญิงอย่าง Summer Lesson จะทราบว่าเกมนี้พัฒนาระบบ VR มาจาก Tekken ขนาด Summer Lesson ยังดังซะขนาดนั้น เชื่อว่าอนาคต Tekken ก็น่าจะเล่นในระบบ VR ได้ดีเช่นเดียวกับเกมแนวอื่นๆ แต่สำหรับ Tekken 7 ตอนนี้บอกได้เลยว่า “ยังไม่ผ่าน”
ใครที่รอคอยการกลับมาของเกม Fighting ในตำนานอย่าง Tekken ก็คงสบายใจกันสักที ส่วนตัวมองว่าเกมภาค 7 นี้คุ้มค่าสมการรอคอย โดยเฉพาะโหมด Story ที่เปิดเผยความลับสำคัญเกี่ยวกับตระกูลมิชิมะ เพราะการที่พ่อคนหนึ่ง (Heihachi) ทิ้งลูกชาย (Kazuya) ลงเหวกันดื้อๆตั้งแต่ภาคแรกนั้น ย่อมต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรแน่ๆ รวมไปถึง Akuma จาก Street Fighter ที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับเกมนี้เป็นอย่างมากด้วย ส่วนระบบ VR นั้นคงต้องรอดูในอนาคตว่า Bandai Namco จะพัฒนาตรงนี้ยังไงให้เหมาะสมกับ Tekken ในอนาคต
—————–
สรุป (8.5/10)
Tekken 7 ยังคงเสน่ห์ของความเป็นเกมต่อสู้ที่แฟนๆคุ้นเคย ถึงจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ก็เริ่มเล่นได้ง่ายมาก ความพิเศษของภาคนี้ คือ เนื้อเรื่องที่เผยความลับของเกมที่ผ่านมา และการข้ามค่ายของ Akuma จาก Street Fighter
