Review / รีวิว Yakuza 0 (เกมนี้เหมาะสำหรับผุ้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป)
ก่อนอื่นที่จะเข้าส่วนของการรีวิวต้องขอเกริ่นเลยว่า ในที่สุดภาคภาษาอังกฤษก็มาซักที ใครที่เป็นแฟนเกมนี้มาตั้งแต่สมัย PS2 ก็จะเป็นอันรู้กันว่าซีรี่ย์เกมนี้นั้นกว่าจะออกภาคภาษาอังกฤษกันได้นั้นต้องรอกันเป็นปีๆ เลยแถมต้องมานั่งลุ้นกันอีกว่าจะทำออกมาไหม แต่แล้วในที่สุด Ryū ga Gotoku 0 หรือชื่ออักกฤษคือ Yakuza 0 นั้นก็ได้ออกเวอชั่นภาษาอังกฤษมาให้เล่นกันแล้วน่ะครับ เราไปดูกันเลยว่าภาคนี้ทำออกมาได้น่าเล่นแค่ไหนกัน
เรื่องย่อ
เรื่องราวของเกมส่วนใหญ่ในซีรี่ย์นี้นั้นจะกล่าวถึงตัวเอกหลักๆก็คือ “คิริว คาซาม่า” เด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงมาโดยยากูซ่าและกลายเป็นยากูซ่าที่ฝีมือการต่อสู้ไม่เหมือนใคร (มีมา 5 ภาค ภาค 6 เพิ่งออกไปไม่นานแต่ยังไม่มีเวอชั่นภาษาอังกฤษคาดว่าจะมีปี 2018 นานไปไม๊)
ในภาคแรกๆที่ผ่านมาพระเอกเรานั้นทั้งต้องช่วยเพื่อนสนิท สู้กับเพื่อนสนิท เลี้ยงเด็ก ช่วยปกป้องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า รวมถึงผจญภัยต่อสู้กันมาต่างๆนาๆ จนกระทั่งกลายเป็นตำนานของเมืองไปในที่สุด มาในครั้งนี้ เกมจะกลับไปเล่าเรื่องถึงเรื่องราวก่อนภาค 1 ในช่วงยุคปี 90 ถึงการแย่งชิงขั้วอำนาจกันภายในแก๊งยากูซ่าโทโจ และผลประโยชน์พื้นที่ในเขตเมือง คามูโรโจ (ของจริงชื่อ คาบูกิโจ) ที่มีทั้งการใส่ร้ายป้ายสี ลอบสังหารไม่เลือกหน้าเพื่อให้ได้มาเพื่ออำนาจสูงสุด ทำให้พระเอกของเรานั้นตกที่นั่งลำบากจนต้องตัดสินใจเปิดโปงแผนทั้งหมดด้วยตัวของเค้าเอง
การดำเนินเนื้อเรื่อง (9/10)
“เนื้อเรื่อง Yakuza 0 นั้นทำออกมาได้ดีมาก เข้มข้นและน่าติดตามมากๆ”
หลายคนอาจจะบอกว่า สงสัยหมดมุกละซิ มามุกเดียวกะหนังสตาร์วอร์เลย แต่ที่ผิดคาดคือ เนื้อเรื่อง Yakuza 0 นั้นทำออกมาได้ดีมาก เข้มข้นและน่าติดตามมากๆ และที่สำมะคัน คราวนี้เราไม่แค่จะได้รู้เรื่องราวในอดีตของ คิริว เรายังได้เล่นและรู้เรื่องราวของมาจิม่าด้วย!!! (แฟนๆรู้ดีว่าตัวละครนี้มีสเน่ห์แค่ไหน) ซึ่งแม้ตัวละครทั้งสองคนจะมีเนื้อเรื่องที่แยกออกจากกันแต่ก็สามารถทำให้บรรจบกันได้อย่างชาญฉลาดเลยทีเดียว บทพูดบทสนทนา คัตซีน ต่างๆ ทำออกมาได้ลงตัว ดูเพลินๆได้ยาวๆ แบบไม่ต้องกดข้าม และที่ชอบก็คือการวางความสมดุลระหว่างเนื้อเรื่องที่ซีเรียส กับ เนื้อเรื่องย่อยที่ค่อนไปทางปัญญาอ่อนเลยที่มีให้เล่นเยอะมาก ซึ่งรู้สึกว่ามันลงตัวดีมากๆ แบบไม่ทำให้เราเครียดจนเกิดไป และเป็นมุกตลกแบบเอเชีย ทำให้ปล่อยฮาได้มากกว่าเวลาเล่นเกมฝั่งยุโรป อเมริกาซะอีก
ที่ชอบก็คือการวางความสมดุลระหว่างเนื้อเรื่องที่ซีเรียส กับ เนื้อเรื่องย่อยที่ค่อนไปทางปัญญาอ่อนเลย
แต่ถึงแม้ว่าเกมนี้จะเป็นเวอชั่นอังกฤษก็ตาม แต่เสียงพูดในเกมจะมีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ก็ทำให้ได้อารมณ์เหมือนดูการ์ตูนซับไทย ยังไงหยั่งงั้น รวมๆแล้วทำออกมาได้ดีมาก ติดแค่ส่วนที่เป็นเพียงตัวหนังสือให้อ่านแบบไม่มีเสียงแบบอารมณ์เกมภาษาสมัยก่อนซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่าออกจะโบราณไปนิด แต่ก็ถือว่ามีเสน่ห์ดีครับ แต่ถ้าหากใครติดปัญหาเรื่องภาษาอาจจะทำให้ไม่อินกับเกมนี้เท่าไรนัก
รูปแบบการเล่น (8.5/10)
เนื่องจากเกมนี้นั้นเป็นแนวคล้าย Open World จึงทำให้มีการเล่นที่หลากหลาย ถ้าพูดถึงด้านการต่อสู้นั้นคล้ายกับภาคที่ผ่านๆ มา คืออารมณ์จะเหมือนเกม Final Fight สามารถหยิบจับอาวุธตามฉากต่างๆมาฟาด มาขว้างใส่ศัตรูได้ มีเกจพลังเอาไว้ใช้ท่าพิเศษได้หลากหลายรูปแบบ แต่ไปนานๆเข้าอาจจะรู้สึกจำเจนิดหน่อย แต่หนึ่งตัวละครนั้นสามารถเปลี่ยนชุดท่าโจมตีได้หลากหลายสไตล์ทำให้เพิ่มความสนุกได้มากพอสมควร ซึ่งเราสามารถอัพท่าต่างๆ และไปเรียนท่าพิเศษได้อีกตะหากด้วย ซึ่งจุดนี้จะทำให้ได้อารมณ์คล้ายกับ Action RPG เหมือนกัน
อีกส่วนหนึ่งที่เหมือนเป็นจุดเด่นของเกมนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วก็คือ Mini Game ที่มีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น เล่นแทงพูล ปาลูกดอก ร้องคาราโอเกะ ตีเบสบอล โทรศัพท์จีบสาว เล่นหมากรุก เต้นดิสโก้ เล่นทามิย่า เกม Arcade บริหารกิจการ บริหารคาบาเร่ (เยอะไป๊!!!) เหล่านี้ไม่ใช่แค่ Mini Game ไก่กา แต่ถือว่าออกแบบมาได้ดีเล่นได้สนุก แถมยังมีเนื้อเรื่องย่อยที่เกี่ยวพันกับ Mini Game มาให้เล่นด้วย และเกมนี้ยังมีโหมด Mini Game ให้เล่นแบบ 2P ด้วย เหมือนซื้อหนึ่งเกมแถมอีก 7-8 เกมมาให้เล่นขำได้เพลินๆ รวมๆทั้งหมดแล้ว ผมได้ทดสอบเล่นมาเป็นเวลา 50 ชม ด้วยกันแล้วก็ยังไม่เบื่อและสามารถเล่นได้อีกเรื่อยๆ นี่ยังไม่นับรวมการเก็บวิดีโอสาวๆ และการ์ดสาวๆ ที่เป็น collectable item อีกนะเนี่ย (อิงจากดารา AV ญี่ปุ่น ทั้งหมด นั่นแหน่ๆ!! แต่มีแต่ บิกินี่จ้า)
การควบคุม (7.5/10)
ระบบการควบคุมใน Yakuza 0 นั้นค่อนข้างเข้าใจง่าย แตะต่อยบังคับตามปกติ ติดก็ที่ไม่มีระบบล็อคเป้าศัตรู และมุมกล้องค่อนข้างเป็นปัญหาพอสมควรตามสไตล์เกมมุมมองบุคคลที่สาม เดินซอยแคบๆ เปลี่ยนมุมมองแทบไม่ได้เลย การหยิบจับอาวุธจากพื้นขึ้นมาบางครั้งทำได้ลำบาก แต่ถ้าจับทริคได้นิดหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่โดยรวมแล้วถือว่าไม่ได้แย่มากจนทำให้หมดความสนุกไป มินิเกมบางอย่างนั้นควบคุมค่อนข้างยากไปนิด เช่นเวลาเล่นพูล จอยไวมากกะแบบละเอียดๆยากมาก ต้องใช้เวลาฝึกพอสมควร สรุปแล้วการควบคุมยังไม่สมบูรณ์พร้อม แต่ก็เล่นได้ไม่มีปัญหาแค่ต้องตั้งใจนิดนึง
กราฟฟิค (7.5/10)
กราฟฟิคนั้นถือว่าไม่ได้พัฒนาไปจากภาคก่อนๆเท่าไรนัก ยังคงอาศัยฉากเดียวกับภาคที่ผ่านมา ต่างกันตรงที่เป็นคนละยุคไปเท่านั้น คือถ้าแฟนๆ ภาคเก่ามาเล่นก็จะรู้เลยว่าตรงไหนอะไรเป็นยังไง แต่สีหน้าตัวละครสำคัญๆ จะทำออกมาเป็นเสมือนรูปถ่ายถือว่าดีมาก แต่ถ้าเป็น NPC ทั่วไปก็จะเหมือนเอาของภาคเก่า PS3 มาทำเป็น HD เอายังไงยังงั้น แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ จนทำให้รู้สึกว่าเล่นเกมตกเจนท์
เสียง (8.5/10)
โดยส่วนตัวแล้วชอบการอัดเสียงของเกมนี้มาก บรรยากาศเหมือนเราอยู่ในเมืองที่พลุกพล่านจริงๆ เสียงเซลล์ตามท้องถนน คนคุยกัน เสียงคนทะเลาะกันข้างทาง เสียงคนถูกรังแกต่างๆ ทำให้มีอารมณ์ร่วมดีเลย เพลงประกอบต่างๆจะออก J Rock นิดๆ ยิ่งเพลงที่อยู่ในมินิเกมคาราโอเกะ นี่ยิ่งเป็นเพลง ญี่ปุ่นเก่าๆ เลยได้อารมณ์ยุคญี่ปุ่น 80 90 ดีมาก ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ
สรุป (8.0/10)
Yakuza 0 ถือว่าเป็นภาคต่อที่น่าเล่นอีกครั้งหนึ่งเลยทีเดียว แม้ที่ผ่านมาซีรี่ย์นี้จะมีวอกแวกไปทำเกมซอมบี้บ้างอะไรบ้าง แต่ยังไงซะหัวใจหลักก็ยังเป็นเนื้อเรื่องของวงการยากูซ่า ที่เกมภาคนี้ทำออกมาได้น่าติดตามเช่นเคย ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเล็กน้อยบ้างเรื่องการบังคับ แต่ตัวเกมก็ทำส่วนอื่นออกมาได้ดีจนมองข้ามส่วนนี้ไปได้แบบสบายๆ ถ้าใครสนใจที่จะหาเกมที่เล่นได้ยาวๆ เนื้อเรื่องสนุก มีตลกปนเล็กๆ ด้วยลองหามาลองดูครับผมไม่ผิดหวัง แต่ใครที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีและไม่ชอบอ่าน เกมนี้อาจจะไม่ใช่เกมสำหรับคุณ แต่ถ้าถามว่าจะเอาแค่เตะๆต่อยไม่อ่านเลยจะสนุกพอไหม ก็คงตอบว่าพอครับสนุกได้แน่ แต่ก็จะพลาดจุดเด่นของเกมนี้ไปเลยเหมือนกัน
