ต้องยอมรับเลยว่า อากาศช่วงนี้นั้นมันร้อนได้ใจเลยจริงๆ แต่ถึงยังงั้นก็ยังไม่วายที่เราต้องขอบคุณ NVIDIA ที่มาทำให้ Gaming Room นั้นได้ร้อนมากขึ้น เพราะว่าใช่แล้วครับ GTX 1080 Ti การ์ดจอพันธ์เกมเมอร์ตัวใหม่ล่าสุดได้มาอยู่ในมืออของพวกเราแล้ว วะฮ่าๆๆๆๆ (ขอยึดไว้เลยไหมอ่า)
เรื่องยึดเอ๊ย!! เรื่องนั้นเราช่างมันก่อนครับ อย่างที่ชื่อบทความได้บอกไป เราจะมารีวิวการ์ดจอตัวนี้แบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เราจะมาบอกคุณว่า การ์ดจอตัวนี้มันดียังไง มันแรงแค่ไหน แล้วใครที่ควรต้องหามาไว้ในครอบครอง!
เริ่มกันด้วยที่เรื่องน่าเบื่อกันก่อนเลย SPEC
สำหรับเพื่อนๆที่ดูกันเป็นแล้วก็คงจะตะลึงอึ้งทึ่งเสียวกันยกใหญ๋ เพราะมันเทียบเท่าได้กับตัว Top GTX TITAN X ที่ราคาสูงกว่าราคา GTX 1080ti อยู่เป็นหลักหมื่นเลยทีเดียว
ซึ่งก่อนเดือนเมษายน 2017 การ์ดจอ GTX 1080 Ti นั้นถือได้ว่าเป็นการ์ดที่แรง!!!! ที่สุดแล้วในท้องตลาด…… จนกระทั่ง….NVIDIA ประกาศว่า GTX TITAN Xp กำลังจะออก (แต่ราคา Xp ก็คงโหดมาก โหดขนาดซื้อ GTX 1080 Ti ได้เกือบสองตัว)
แล้วมันแรงขนาดไหนละนั่นไอ้ GTX 1080ti เนี่ย?
แล้วมันแรงขนาดไหน ถ้าจะให้เห็นภาพก็ดูจากกราฟละกันน่ะครับ ซึ่งก่อนที่เพื่อนๆจะเข้าใจกราฟข้างล่างนั้นเราต้องอธิบายกันนิดนึง (คือจะไม่มีความรู้เลยมันก็ไม่ได้อ่ะนะ) เรามาเข้าใจกันก่อนว่าความหมายข้างล่างทำขึ้นมาให้สำหรับคนที่ไม่มีความรู้อะไรเลยเข้าใจเท่านั้น ผมจะไม่ลงลึกถึงเรื่อง gsync หรือ refresh rate ครับ
- Frame Rate Per Second (fps) = คือภาพที่ฉายได้ออกมาต่อ 1 วินาที ค่ายิ่งมากภาพยิ่งลื่นค่านี้ยิ่งมากยิ่งดี
- 1920×1080 = Full HD อันนี้เราคุ้นกันดีน่ะครับคือความละเอียดของภาพระดับ PS4 Xbox One/ หนังแผ่น DVD ทั่วไป ซึ่งเป็นความละเอียดหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่หาซื้อกันง่ายมากที่สุด
- 2560×1440 = QHD อันนี้บ้านเราจะไม่ค่อยคุ้นเท่าไร คือละเอียดกว่า Full HD แต่จอระดับนี้บ้านเราหาซื้อยากหน่อยและราคาค่อนข้างสูง
- 3440×1440 = Ultrawide QHD อันนี้เป็นความละเอียดสำหรับ จอ Ultra Wide ที่กำลังฮิตกันในหมู่เหล่าเกมเมอร์ ซึ่งเป็นภาพค่อนหนึ่งของความละเอียด 4k (รวม 8.3 ล้านพิเซล ใครอยากรู้ความละเอียดพวกที่กล่าวมาละเอียดน้อยกว่า 4k ยังไงลองเอาเครื่องคิดเลขมาคำนวณดูจะได้เห็นภาพครับ)
ภาพข้างบนนี่มันบอกอะไร? ตอบให้เลยครับว่า จากการที่เราเลือกเกมมาสองเกม Witcher 3 และ Battlefield 1 ที่ความสวยงามระดับสูงสุด Ultra กันเลย ซึ่งเป็นเกมที่ต้องการการ์ดจอที่แรงพอสมควร ผลที่ได้คือ…มันแรงมาก!!! ถ้าใครใช้แค่จอ Full HD ท่านจะได้ภาพที่ fps 100++ ซึ่งสูงมาก ลื่นหัวแตก (เค้าว่ากันว่าตาคนเรามองได้ถึงแค่ประมาณ 30-40 fps แต่แล้วแต่คน ซึ่งสำหรับผมถ้าต่ำกว่า 40 ผมก็หงุดหงิดล่ะ) และถ้าท่านมีจอที่ความละเอียดสูงขึ้นไปอีก ท่านก็ยังสามารถเล่นได้ที่ความละเอียดระดับลื่นหัวแตก fps 70+ อยู่เช่นกัน ทั้งสามความละเอียด GTX 1080ti ใบเดียวเอาอยู่ คุ้มค่าบอกเลย แรงกว่าเจ้าตัวน้องชาย GTX 1080(เฉยๆ) อยู่พอสมควร
ดูเอาจากภาพข้างบนนี้ก็ได้ครับว่าพอใส่การ์ดใบนี้แล้ว เครื่องเรานั้นประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงกว่าเครื่อง PC ส่วนใหญ่ในโลกใบนี้กว่า 97% เลยทีเดียว 555+ ไฮโซไหมล่ะสูงกว่า 4k gaming PC ซะอีก (ส่วนตัวรู้สึกว่าก็คงไม่ทุกเกมอะนะ)
Credit: Aventus Warrior
เพ่ๆๆ!!! แล้วถ้าจอผมเป็น 4k ล่ะ? เราก็จะตอบเลยว่า มันก็ยังสามารถเล่นได้อยู่ ลองดูจากวิดีโอตัวอย่างนี้ได้ แต่ที่เราไม่เอามาลงเพราะ
1. เราไม่มีจอ 4K (ขอบคุณ NVIDIA ล่วงหน้าครับ!)
2. เกมส่วนใหญ่ยังไม่ได้อยากให้เราเล่นภาพที่ละเอียดขนาดนั้น (ลองเล่น Ghost Recon แล้วเลือก Ultra setting ดูจะรู้ว่าผมพูดถึงอะไร)
3. จอ 4K แพง และยังไม่ใช่สำหรับเกมเมอร์ และ สุดท้ายภาพที่ได้จาก 4K อาจจะสวยงามมาก แต่ fps ที่ได้อาจจะต่ำกว่า 60 ซึ่งเสียอรรถรส อันนี้แล้วแต่คน ถ้าจะให้แนะนำสำหรับคนพลั่น 4K คงต้องจัด GTX 1080 Ti SLI ไปนะครับ (ใช้การ์ดสองตัวช่วยกัน) แต่ถ้าใครทนที่ fps 40-50 ได้ถือว่าผ่านชิวๆ บางเกมอาจจะได้มากกว่า fps 60 ด้วยน่ะแล้วแต่เกม
มันแพงไหมอ่า GTX 1080 Ti ?
ขึ้นชื่อตัว Top นะครับถ้าจะให้เทียบมันก็ไม่ถูกแน่นอนครับ ราคาอยู่ที่ประมาณ 28,000-32,000 บาท แล้วแต่การออกแบบของแต่ละค่าย ซึ่งอาจจะแรงกว่าตัวที่เราทดสอบกันนี้เล็กน้อยเพราะมีการ Modify ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากทางโรงงาน (ตัวที่เราทดสอบนี้คือ reference card/founder edition ซึ่งเป็นตัว Standard) ดังนั้นเรื่องราคาคงต้องคิดหนักกันนิดนึงสำหรับท่านที่มีงบประมาณจำกัด
แล้วสรุปมันเหมาะกับใคร ??
คนที่เหมาะจะหามาไว้ใช้ คือ….
1. คุณมีจอ หรือ ต้องการใช้จอที่มีความละเอียดมากกว่า Full HD :เหตุผลก็เพราะว่า การ์ดรุ่นอื่นๆ ที่ราคาถูกกว่ากันมากกว่าครึ่งนั้นสามารถเล่นเกมในสมัยปัจจุบันที่ความละเอียด Full HD ได้ดีเหมือนกัน หากจอคุณได้แค่ 1920×1080 แล้วละก็ การเอา GTX 1080 Ti มาใช้ด้วยบอกตรงๆ เว่อเกินไป แต่ถ้าอยากจะได้ภาพเกมแบบ fps 100+ สำหรับพวกที่ใช้จอ refresh rate 140-240hz ก็อีกเรื่องน่ะครับ แต่ถ้าเล่นเกมทั่วไป ถือว่า Overkill เอา GTX 1070 หรือ GTX 1060 ก็เหลือๆแล้วที่ความละเอียดระดับนี้ เพราะยังไงถึงการ์ดท่านแรงทะลุโลกไปไหน จอท่านได้แค้ 1920×1080 ท่านก็ได้แค่นั้นอะ ไม่สวยไปไหนมากกว่านี้หรอก
2. เงินทองของนอกกาย ไม่ใช่ปัญหา คุณต้องการประสิทธิภาพสูงสุด : ……ก็ตามนั้นอะครับ ถ้าเหลือๆ ท่านก็จัดตัวท๊อปไปเถอะ ขนหน้าแข้งไม่กระเด็น
3. ท่านไม่มีการ์ด ซีรี่ย์ GTX 10XX มาก่อน : เพื่อนๆที่อยากจะอัพเกรดถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าใครที่มี GTX1060 หรือ GTX1070 อยู่แล้ว ลอง SLI ดูครับประหยัดกว่าเยอะ (ถ้า motherboard ท่านทำได้อะนะ) ผมลงผลของการใช้การ์ดสองตัวแบบ SLI ไว้ในกราฟแล้วนะเอ้อเอาไว้ช่วยตัดสินใจได้
4. ท่านต้องการการันตี 3 ปี ไม่ต้องเปลี่ยนการ์ดจอ : แน่นอนครับ 4k ยังเล่นได้ 3 ปีนี้ท่านมีสิทธิได้ใช้ยาวๆ แน่นอนกว่า 80%….. “อ้าว เพ่ ทำไม ไม่กล้าการันตี” โลกเราอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ แทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ตลอด แต่ตามปกติแล้ว 3 ปี NVIDIA ก็ยังไม่ทิ้งเราครับ ถ้าเราจัดตัวท๊อป… ส่วนใหญ่อะนะ
และก็จบลงไปแล้วครับสำหรับการ Review เจ้า GTX 1080ti ตัวนี้ หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้ประโยชน์กันไปบ้างไม่มากก็น้อย อาจจะต้องคิดหนักกันนิดนึงด้วยราคาค่าตัวที่ไม่น้อยเลย แต่ถ้าเทียบความคุ้มค่าและความพึงพอใจถือว่าคุ้มเลยทีเดียวครับ
ครั้งหน้าถ้าหาก Gaming Room มีอะไรใหม่ๆมันส์ๆมาอีกละก็ เราจะรีบเอาให้เพื่อนได้ดูกันครับ อย่าลืมติดตามกันน่ะครับ
ขอขอบคุณ NVIDIA ที่ให้เราได้เอาการ์ดอันร้อนแรงนี้มาทดสอบกันนะครับ
